ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงวันนี้ (21 มค 64) เกี่ยวกับการผ่อนปรน 13 สถานที่ได้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.เป็นต้นไป ดังนี้
- สถานที่เล่นตู้เกม
ต้องมีมาตรการในการทําความสะอาดจุดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา
- ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต
ต้องมีมาตรการในการทําความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา
- สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ
ต้องลดเวลาในการทํากิจกรรม หลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสกัน
- สนามแข่งขันทุกประเภท
ยกเว้น สนามมวย สนามม้า ห้ามมีผู้นั่งชมและปฏิบัติตามมาตรการ
- สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง ที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทํานองเดียวกัน
• หากมีจํานวนคน ไม่เกิน 300 คน สามารถจัดได้ โดยไม่ต้องมีมาตรการ
• แต่หากมีจำนวนคนเกิน 300 คน ต้องยื่นขออนุญาตจากสํานักอนามัย กทม.
- สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง
ควบคุมจํานวนผู้ใช้บริการห้ามไม่ให้แออัด
- สถานเสริมความงาม ที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็นคลินิกเวชกรรม
สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง ทําความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการ/ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา จํากัดจํานวนผู้ใช้บริการ
*เดิมได้มีการผ่อนปรนไปรอบที่แล้ว คือแบบที่มีหมอ แต่คราวนี้ต่างกัน เป็นแบบไม่มีหมอ สามารถเปิดได้นั่นเอง
- สถานที่ออกกําลังกาย ฟิตเนส
ไม่ให้มีเทรนเนอร์หรือผู้ฝึกสอน งดเว้นการอบตัว การอบไอน้ำแบบรวม เว้นระยะห่างระหว่างเครื่องออกกําลังกายอย่างน้อย 2 เมตร
- สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า
ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา
* ไม่รวมถึงสถานที่ประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด
- สนามฝึกซ้อมมวย โรงยิม หรือค่ายมวย
เปิดได้เฉพาะเพื่อการฝึกซ้อม การชกลม โดยไม่มีคู่ชก การชกมวยแบบล่อเป้า ห้ามจัดให้มีการแข่งขันและไม่มีผู้ชม
- สนานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่นๆ ในทํานองเดียวกัน
ห้ามจัดให้มีการแข่งขัน และห้ามมีผู้ชม
- สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ
ห้ามจัดให้มีการประกวดแข่งขัน และห้ามมีผู้ชม
- โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้หรือยิม
ห้ามไม่ให้มีการแข่งขัน และห้ามมีผู้ชม
โดยข้อยกเว้นของทั้ง 13 สถานที่นี้ ผู้ประกอบกิจการต้องไปศึกษาในรายละเอียดที่กทม.จะออกประกาศอีกครั้ง
ส่วนอีก 13 สถานที่ที่ยังต้องปิด ต่อไป ดังนี้
- สถานบริการผับบาร์ สถานบันเทิงและสถานประกอบการใดที่ให้บริการลักษณะเดียวกัน
- สนามเด็กเล่น เครื่องสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ ตลาดนัด
- สนามมวย
- โต๊ะสนุ๊ก บิลเลียด
- สนามม้า
- สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
- สนามชนโค สนามปลากัด หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
- สถานรับเลี้ยงเด็ก ยกเว้นที่มีการรับไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ
- สถานประกอบการอาบน้ำ
- สถานประกอบกิจการ อาบอบนวด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน
- สวนน้ำ สวนสนุก
- อาคารสถานที่ โรงเรียน สถาบันกวดวิชา และสถาบันการศึกษาทุกประเภท
สถานที่ทั้ง 13 สถานที่ ต้องปฏิบัติตาม
มาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคแนบท้ายโดยเคร่งครัดดังนี้
- บริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือการคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ
- ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
- อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด
- จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
- จัดให้มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทำกิจกรรมรวมทั้งระหว่างและภายหลังการทำกิจกรรมด้วย
- ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่และเพิ่มมาตรการการใช้แอปพลิเคช่ันที่ทางราชการกำหนด
หากพบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 1 มกราคม 2564 หรือประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 4 มกราคม 2564 หรือประกาศกรุงเทพมหานครฉบับนี้ ให้ปิดสถานที่ที่ฝ่าฝืนเป็นเวลา 14 วัน โดยให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อแจ้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ให้ปิดสถานที่ดังกล่าว
ผู้ฝ่าฝื่นไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539