ปัญหาของสาว ๆ เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์อย่างหนึ่งคือ เมื่อมีประจำเดือน บางคนมักมีอาการปวดท้อง แต่บางคนไม่ต้องการกินยาแก้ปวด จะทำอย่างไร วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาบอก
อาการปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea) เกิดจากสารที่ชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็งจนทำให้มีอาการปวดท้อง ซึ่งอาการปวดประจำเดือนมักมีอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และระหว่างมีประจำเดือนในช่วงวันแรกๆ
เมื่อมีการปวดประจำเดือนแล้วหากไม่ต้องการกินยาท่านสามารถนำน้ำอุ่นมาประคบบริเวณที่ปวดได้ เนื่องจากความร้อนช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว จนทำให้อาการปวดบรรเทาลงได้ ซึ่งการใช้น้ำอุ่นมาประคบสามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้เหมือนกับกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
แต่หากนำน้ำอุ่นมาประคบแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นท่านสามารถกินยา ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ตามรายการแนะนำดังนี้
ตัวอย่างยาในกลุ่ม NSAIDs / วิธีใช้
- ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) เริ่มต้นขนาดยา 800 มิลลิกรัม แล้วตามด้วยขนาดยา 400 – 800 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง
- นาโปรเซน (Naproxen) เริ่มต้นด้วยปริมาณ 440 - 550 มิลลิกรัม แล้วตามด้วยปริมาณ 220-550 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง
- เมเฟนามิค แอซิด ( Mefenamic Acid) เริ่มต้นขนาดยา 500 มิลลิกรัม แล้วตามด้วยขนาดยา 250 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง
- เซเลโคซิบ (Celecoxib) เริ่มต้นขนาดยา 400 มิลลิกรัม แล้วตามด้วยขนาดยา 200 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง
โดยการใช้ยาควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา และนอกจากการกินยาหรือการนำน้ำอุ่นมาประคบบริเวณที่ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือนแล้ว แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ