ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ทำไมฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่-ผู้สูงอายุ และมีวัคซีนใดที่แนะนำให้ฉีด

ปัจจุบันเริ่มพบการติดเชื้อที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน เช่น คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก หัด อีสุกอีใส ฯลฯ เหล่านี้เกิดขึ้นประปรายในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ เป็นเหตุให้ต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกันใหม่ในช่วงวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ

ทำไมต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

 
วัคซีน (vaccine) เป็นชีววัตถุที่เตรียมขึ้นจากเชื้อจุลินทรีย์ที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลง ตาย หรือ ชิ้นส่วนของเชื้อจุลินทรีย์หรือการใช้ส่วนที่เป็นพิษที่อ่อนฤทธิ์ลง ซึ่งเมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่จำเพาะต่อจุลินทรีย์ชนิดนั้นๆ และสามารถป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคเมื่อมีการสัมผัสโรค
 
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัคซีนให้คุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ พบว่าวัคซีนช่วยลดอัตราเสียชีวิตและพิการในเด็กแรกคลอด และเด็กจำนวนมากมายทั่วโลกป็นล้านๆ คนทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและในประเทศกำลังพัฒนา หลังจากมีการใช้วัคซีนฉีดในเด็กอย่างแพร่หลายมานานนับสิบปี สามารถลดการเกิดโรคติดเชื้อหลายชนิดในเด็กได้อย่างชัดเจน เด็กที่ได้วัคซีนเหล่านี้ เมื่อเวลาผ่านไปเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พบว่าภูมิคุ้มกันโรคที่เกิดจากการฉีดวัคซีนตั้งแต่ในวัยเด็ก จะมีระดับสูงไม่เพียงพอในการป้องกันโรค จึงต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเหล่านี้ซ้ำในผู้ใหญ่
 
นอกจากนี้ บุคคลที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนในวัยเด็กและไม่เคยติดเชื้อเหล่านั้นทางธรรมชาติมาก่อน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่จึงไม่มีภูมิต้านทานเพื่อป้องกันโรค ก็จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเหล่านั้นเช่นกัน 
 
ปัจจุบันเริ่มพบการติดเชื้อที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน เช่น คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก หัด อีสุกอีใส ฯลฯ  เหล่านี้เกิดขึ้นประปรายในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ เป็นเหตุให้ต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกันใหม่ในช่วงวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
 
นอกจากนั้น ในปัจจุบันมีการค้นพบวัคซีนชนิดใหม่ๆ เช่น วัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดบวมจากการติดเชื้อนิวโมคอคคัส วัคซีนป้องกันงูสวัด จึงถูกนำมาใช้ฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อดังกล่าวสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุด้วย 
 
นอกจากความจำเป็นของการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคของประชากรทั่วไปตามอายุที่ควรจะได้รับวัคซีนแล้ว การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคในผู้ใหญ่ ยังถูกระบุตามข้อบ่งชี้ในการประกอบอาชีพ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ สัตว์แพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ พนักงานสายการบิน ฯลฯ  รวมทั้งสถาบันการศึกษาในต่างประเทศหลายแห่ง เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการระบุให้นักศึกษาต้องได้การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคก่อนเข้าศึกษา  รวมทั้งการฉีดเพื่อป้องกันโรคก่อนการเดินทาง ในกรณีที่มีการเดินทางไปในที่ที่มีการเกิดโรคชุกชุม หรือมีการระบาดของโรค เช่น การเดินทางไปประเทศในทวีปแอฟริกา อเมริกาใต้
 
ดังนั้นปัจจุบันการฉีดวัคซีนจึงไม่ใช่สิ่งที่ใช้เฉพาะเด็กเล็กอีกต่อไป หากยังมีวัคซีนอีกหลายชนิดที่ใช้ฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อสำหรับเด็กโต วัยรุ่น ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
 
 

คำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคของผู้ใหญ่และผู้สูงอายุในประเทศไทย

การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่การฉีดวัคซีนในเด็กที่นำมาใช้เป็นเวลามากกว่า 30 ปีซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า สามารถลดการติดเชื้อในเด็กไทยได้อย่างดี แต่การให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เพื่อลดการติดเชื้อหรือลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น 
 
การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อแต่ละชนิด จะมีกำหนดการฉีดในแต่ละช่วงอายุและมีตารางการนัดฉีดวัคซีนตามโปรแกรมของวัคซีนชนิดนั้นๆ ซึ่งจำเป็นต้องฉีดให้ครบและตรงตามที่กำหนด เช่น วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี มีกำหนดการฉีด 3 ครั้ง โดยนัดฉีดอีก 2 ครั้งภายหลังฉีด วัคซีนเข็มแรกหนึ่งเดือนและหกเดือน วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ต้องฉีด 1 ครั้งทุกปี เป็นต้น 
 
 โดยทั่วไปการได้รับวัคซีนครบตามกำหนด จะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคภายหลังได้รับวัคซีนครบ 2 สัปดาห์ภายหลังฉีด วัคซีนบางรายอาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมักเป็นเฉพาะที่ตรงตำแหน่งที่ฉีด เช่น บวมแดง ปวด คัน โดยทั่วไปอาจมีไข้ต่ำๆ มักเป็นเพียง 1-3 วัน ภายหลังฉีดวัคซีน 
 
ในประเทศไทย มีการกำหนดโปรแกรมการให้วัคซีนป้องกันโรคในช่วงผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ โดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2557 ดังรูปที่ 1  ขณะเดียวกันก็กำหนดการให้วัคซีน ในผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อย เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง ตับวาย การให้วัคซีนในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี 
 
นอกจากการพิจารณาการให้วัคซีนในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุดังกล่าวแล้ว ประชากรบางกลุ่มที่มีภาวะซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไป เช่น หญิงตั้งครรภ์ที่มีโอกาสติดเชื้อบาดทะยัก ไข้หวัดใหญ่ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ไวรัสตับอักเสบบี โรคหัด อีสุกอีใส รวมทั้งพิจารณาการให้วัคซีน แก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปในที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคหรือเมื่อเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีโรคนั้นๆ ชุกชุม (travel vaccination) เช่น การเดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลาง ทวีปอเมริกาใต้ เช่น การให้วัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น วัคซีนไข้เหลือง วัคซีนไทฟอยด์ วัคซีนอหิวาตกโรค โดยคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงของการสัมผัสโรค ความรุนแรงของโรคและสุขภาพของผู้เดินทาง
 
นอกจากนั้นบางอาชีพหรือการเข้าศึกษาในสถานศึกษาหลายแห่งโดยเฉพาะการไปศึกษาในต่างประเทศก็มีการกำหนดให้รับวัคซีนบางชนิดเช่นกัน
 
 

คำแนะนำการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศ ไทย ปีพ.ศ.2557
 
ช่วงอายุ / วัคซีนป้องกันโรคที่แนะนำให้ฉีด

ผู้ใหญ่ช่วงต้น (อายุ 18-26 ปี)
วัคซีนบาดทะยักและคอตีบ - ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ - ฉีดกระตุ้นทุก 1 ปี
วัคซีนหัด-คางทูม- หัดเยอรมัน - ฉีด 1 เข็ม
วัคซีนเอชพีวี - ควรฉีดตั้งแต่วัยรุ่นตอนต้น (การฉีดวัคซีนไม่สามารถทดแทนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก)
วัคซีนตับอักเสบบี - ควรตรวจภูมิคุ้มกันก่อนฉีดวัคซีน


 
ผู้ใหญ่ (อายุ 27-65 ปี)
วัคซีนบาดทะยักและคอตีบ  - ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
วัคซีนไข้หวัดใหญ่  - ฉีดกระตุ้นทุก 1 ปี
วัคซีนตับอักเสบบี - ควรตรวจภูมิคุ้มกันก่อนฉีดวัคซีน


 
 
ผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปี)
วัคซีนบาดทะยักและคอตีบ - ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ - ฉีดกระตุ้นทุก 1 ปี
วัคซีนป้องกันนิวโมคอคคัส
 
 
ผู้ที่มีโรคเรื้อรั้ง
(ไม่มีม้าม หัวใจวาย ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง ตับวาย ติดเชื้อเอดส์รับยากดภูมิคุ้มกัน)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่  - ฉีดกระตุ้นทุก 1 ปี
วัคซีนตับอักเสบบี - ควรตรวจภูมิคุ้มกันก่อนฉีดวัคซีน
วัคซีนป้องกันนิวโมคอคคัส
 
 
 

ทำอย่างไรให้ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุได้รับวัคซีนป้องกันโรคที่เหมาะสม

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคในช่วงผู้ใหญ่และผู้สูงอายุปัจจุบัน ได้รับความสนใจและสนับสนุนในการฉีดวัคซีนมากขึ้น แต่ก็ยังพบว่า อัตราการให้วัคซีนยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ ซึ่งอาจเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ เช่น

1. ผู้ใหญ่ไม่มีโอกาสพบแพทย์เนื่องจากมักมีสุขภาพดี ไม่ป่วยและไม่มีโปรแกรมการนัดฉีดวัคซีนชัดเจนเหมือนโปรแกรมในเด็กเล็ก

2. แพทย์ไม่ได้พิจารณาให้วัคซีนแก่ผู้ใหญ่เนื่องจากแพทย์เข้าใจผิดคิดว่าผู้ป่วยเคยรับวัคซีนมาแล้วหรือเคยเป็นโรคมาแล้ว

3.แพทย์บางท่านไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ
ที่มีความรุนแรง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง 

4. ประชากรกลัวการฉีดวัคซีนหรือกลัวผลข้างเคียงจากการรับวัคซีน 

5. ประชากรต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนมีราคาแพง ซึ่งอาจไม่มีความคุ้มทุนในการฉีดวัคซีน ฯลฯ 
 

ดังนั้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชากรรวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ในความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และการให้การสนับสนุนการฉีดวัคซีน ทั้งโดยภาครัฐบาลและภาคเอกชนจึงมีความสำคัญ ในการส่งเสริมการป้องกันโรคด้วยวัคซีนในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
 

ศ.นพ.ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร
หน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย  เอกสารต้นฉบับ

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด