"ในวัยเด็กคุณพ่อคุณแม่ ให้แต่งตัวเป็นเด็กผู้ชาย แต่เมื่อน้องโตเป็นวัยรุ่นช่วงประมาณมัธยม ก็เริ่มสนใจในการแต่งตัว แต่งหน้า ใช้ของสวยงามแบบผู้หญิง เริ่มสนใจและชอบผู้ชาย และยังได้ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งแม่สังเกตเห็นว่า ลูกมีความสุขมากในการได้เป็นตัวของตัวเองกล้าแสดงออก การที่ภพได้เป็นตัวของตัวเอง เท่านี้แม่ก็มีความสุขแล้ว" - แม่ภพ
เพศสภาพเป็นเพียงแค่สิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นในตัวของตัวเองได้ เฉกเช่นเดียวกับที่ ภพ เลือก และพ่อแม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเลือกจะเป็น ภพ จะเป็นอะไร อยากจะทำอะไร พ่อแม่พร้อมสนับสนุน ขอเพียงแค่ ภพ มีความสุขก็เพียงพอแล้ว...
แรกพบความผิดปกติ
ทราบว่าลูกผิดปกติเมื่อไร?
คุณแม่เล่าว่า....
ตั้งแต่แรกคลอด เนื่องจาก มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง คิ้วชี้ หูชี้ แนบกับด้านหลัง ลิ้นใหญ่ คุณหมอแจ้งว่าน้องเป็นดาวน์ซินโดรม มีรูปร่างหน้าตาเหมือนดาราตลกท่านหนึ่งในสมัยนั้น ตั้งแต่นั้นคุณแม่เป็นคนดูแลและฝึกกระตุ้นพัฒนาการที่โรงพยาบาลรามาธิบดีอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งอายุ 3 ปี จึงเริ่มพูดเป็นคำ ที่มีความหมายและสื่อสารได้มากขึ้น
จุดเปลี่ยนของครอบครัว
พ่อแม่แต่งงานนาน 10 ปี ยังไม่มีลูก...
เมื่อมีน้องแม่ก็อายุมากแล้ว จึงตัดสินใจมีลูกเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันเมื่อตรวจทราบว่ามีความผิดปกติเป็นดาวน์ซินโดม ครอบครัวต้องทำใจยอมรับและเผชิญกับปัญหาต่างๆ ให้ได้
ในวัยที่เขายังเด็ก คุณพ่อคุณแม่ ชอบแต่งตัวให้น้องด้วยเสื้อผ้าที่น่ารักเพื่อให้ดูสะอาดสะอ้าน ตั้งแต่ทราบว่าน้องมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ครอบครัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจ เนื่องจากน้องเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีน้ำใจ มีความกตัญญูและสามารถช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ ทำงานได้หลายอย่าง เมื่อพ่อแม่เจ็บป่วยก็สามารถดูแลช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ความรักที่แสดงออกต่อกัน
คือความสุขอันสำคัญของครอบครัว
การศึกษา ความสามารถพิเศษ และได้รับการจ้างงาน
การศึกษา
น้องเริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาล โดยมีครูการศึกษาพิเศษช่วยดูแลการเล่นกับเพื่อน รวมทั้งให้กำลังใจแก่ครอบครัว โดยเน้นฝึกส่งเสริมพัฒนาการเรื่องการพูด และช่วงเวลาเหนื่อยที่สุดก็คือ วัยเด็ก
ถ้าเราพยายามฝึกให้มาก เขาจะมีพัฒนาการในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
เรียนอนุบาลถึงมัยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนชาญวิทย์
เรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนบริบูรณ์ศึกษา
สามารถอ่านออกเขียนได้ในระดับพื้นฐาน
หลังจบมัรยมศึกษาปีที่ 6 ได้เริ่มเข้าโครงการจ้างงานที่สถาบันราชานุกูล
ขณะที่เรียนชั้นประถมศึกษา คุณแม่พาไปฝึกว่ายน้ำเพื่อให้กล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรง และคล่องแคล่วมากขึ้น สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้
ความสามารถพิเศษ
เป็นนักกีพาว่ายน้ำ ชอบการแสดงเต้นรำและเดินแบบ ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของมูลนิธิ Five for all ไปเดินแบบตามงานสำคัญต่างๆเสมอ ด้วยอุปนิสัยที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย คุยเก่ง กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตนเอง ทำให้ภพเป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของบุคลากรที่ทำงานร่วมกัน
รวมทั้งผู้รับบริการของสถาบันด้วย
การทำงาน
ภพได้รับการจ้างงาน โดยปฏิบัติงานที่กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยนอก สถาบันราชานกูล โดยมีหน้าที่รับ-ส่งแฟ้มเอกสาร พาผู้ป่วยไปรับบริการที่หน่วยงานต่างๆ ภายในสถาบัน
ภพสามารถช่วยแบ่งเบางานบริการได้เป็นอย่างดี สามารถทำงานที่ทำอยู่ประจำได้โดยไม่ต้องตักเตือน รู้จักมาตามเวลานัดหมาย ปฏิบัติตามกฎระบียบในการทำงาน และรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายได้ดี แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสม อารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
พฤติกรรม เบี่ยงเบนทางเพศ
ในวัยเด็กคุณพ่อคุณแม่ ให้แต่งตัวเป็นเด็กผู้ชายเสื้อผ้าน่ารัก แต่มื่อน้องโตขึ้นเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นประมาณ ระดับมัธยมศึกษา เริ่มสนใจแต่งตัว แต่งหน้า ใช้เครื่องสำอางค์และของสวยงามแบบผู้หญิง เริ่มสนใจและชอบเพศชายที่มีรูปหล่อหน้าตาดี โดยเริ่มดูจากทีวี ยูทูป เพื่อติดตามดารานักแสดงหล่อๆ
นอกจากนี้น้องได้รับการติดต่อ ไปร่วมทำกิจกรรมงานสำคัญต่างๆ เช่น งานคนพิการ งานดาวน์ งานจิตอาสา ทั้งนี้การเข้าร่วมงาน น้องก็จะได้เข้าร่วมโดยรับการแสดงต่างๆ ที่ต้องแต่งตัว แต่งหน้า ทาปากให้สวยงาม และเกิดความมั่นใจในตนเองจากการขึ้นเวทีงานประกวด งานจิตอาสา งานการกุศลต่างๆ จำนวนมาก
แม่สังเกตว่าลูกมีความสุที่จะได้ข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวและกล้าแสดงออก มีการแต่งตัวที่เปลี่ยนแปลงไปตาม CONCEPT ของงาน เปลี่ยนรูปแบบไปตามเวที่ต่าง..ภพเปรียบเสมือนดาวน์หรือดารา ที่เจิดจรัสอยู่บนเวทีมอบรอยยิ้มและความสุขให้ผู้ชม