ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

อังกฤษเตรียมทดสอบระบบ UBI แจกคนละ 1600 ปอนด์ต่อเดือน ฟรี ไม่ผูกมัด ไม่ต้องคืน

อังกฤษเตรียมทดสอบระบบ UBI แจกคนละ 1600 ปอนด์ต่อเดือน ฟรี ไม่ผูกมัด ไม่ต้องคืน HealthServ.net
อังกฤษเตรียมทดสอบระบบ UBI แจกคนละ 1600 ปอนด์ต่อเดือน ฟรี ไม่ผูกมัด ไม่ต้องคืน ThumbMobile HealthServ.net

อังกฤษเตรียมแจกเงิน 1,600 ปอนด์ต่อเดือน (ราวๆ 1,983 ดอลลาร์) ในการทดลองระบบรายได้พื้นฐานสากล หรือ Universal basic income - UBI นับเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร (และในโลก) ที่มีการทดลองใช้ระบบนี้จริงๆในสังคม เพื่อศึกษาถึงประโยชน์ ผลที่จะได้ ผลกระทบและแง่มุมด้านอื่นๆ

อังกฤษกำลังจะคิกออฟโครงการทดลองการแจกเงินเพื่อการดำรงชีพพื้นฐานในชีวิต อันเป็นแนวคิดที่มีมานานพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่มีการนำมาใช้จริงอย่างเป็นทางในประเทศใดๆ บนโลกนี้ และอังกฤษกำลังจะเป็นผู้นำอีกคร้ังในการริเริ่มนำทฤษฎีมาสู่การปฏิบัติ 
 

แผนการทดลองแจกเงิน UBI ที่ชื่อว่า  A Big Local Basic Income : Proposal for a Locally-led basic income pilot  ของอังกฤษ ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อ มิถุนายน 2023 นี้ เป็นแผนจากการศึกษาโดยคณะผู้ดำเนินโครงการ (คณะฯ) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดมสมอง (think tank) ที่ชื่อว่า "Autonomy"
 
แผนการโครงการทดลองนี้ Autonomy จะทำการคัดเลือกผู้เข้าร่วมจำนวน 30 ราย เพื่อที่จะได้รับ "เงินรายจ่ายได้ขั้นพื้นฐาน" (The basic income payments) จำนวน 1,600 ปอนด์ ($1,983) ในแต่ละเดือน 

โครงการ ระยะเวลา 24 เดือนนี้ คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 1.15 ล้านปอนด์
 
 

วัตถุประสงค์โครงการ


ในช่วงเวลาทดสอบนี้ นักวิจัยจะทำการศึกษาและประเมินผลกระทบที่มาจาก UBI ต่อการใช้ชีวิตของผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละเดือน ควบคู่ไปกับอีกกลุ่มที่ไม่ได้รับเงิน ในลักษณะการเก็บข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว การสนทนากลุ่ม และการทำแบบสอบถาม เพื่อทำความเข้าใจถึงประสบการณ์และแตกต่างกันที่เกิดขึ้นในแต่ละราย
 
ก่อนเริ่มโครงการ คณะฯ ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับคนในพื้นที่เป้าหมาย และให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ ผลคือได้รับการตอบรับอย่างดีจากชุมชน  ซึ่งทางคณะได้แจ้งแผนดำเนินการให้ชุมชนได้ทราบแล้ว
 
พื้นที่เป้าหมายในโครงการทดลองนี้ จะมี 2 จุดในสหราชอาณาจักร จุดแรกคือชุมชน  East Finchley ในลอนดอน ซึ่งเป็นพื้นที่จัดว่ามีค่าครองชีพสูง ส่วนอีกแห่งคือใจกลางเมือง Jarrow ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ
 
พลเมืองท้องถิ่นสามารถเข้าร่วมในโครงการนี้ได้ การคัดเลือกผู้เข้าร่วมจะเป็นแบบสุ่ม  ทีม Autonomy กล่าวว่าพวกเขาจะเฟ้นหาผู้เข้าร่วมทดสอบอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าได้กลุ่มทดลองเป็นตัวแทนประชาชนทั่วไปอย่างแท้จริง
 
 
 
 
 
 
 

ข้อถกเถียงเกี่ยวกับ UBI
 

UBI มีการศึกษาและทำโมเดลไว้หลายรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ข้อเสนอส่วนใหญ่คือ "ทุกคนจะได้รับเงินเท่ากันโดยไม่คำนึงถึงความมั่งคั่งหรือสถานะการจ้างงาน และไม่มีเงื่อนไขใดๆ"  
 
แนวคิดนี้มีการหยิบยกมาถกเถียงกันนานมากแล้วในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ด้วยเห็นดีว่าน่าจะเป็นวิธีที่จะลดความกดดันต่อระบบประกันสังคม และหวังจะช่วยบรรเทาความยากจนได้ และ UBI ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น เมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่พุ่งสูง ที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน
 
Will Stronge ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Autonomy กล่าวว่า "หลักฐานทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า UBI จะช่วยบรรเทาความยากจนได้โดยตรงและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนนับล้าน"
 
Stronge เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เราอาศัยอยู่อาจเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการนำ UBI มาใช้
 
“ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกโกลาหลทางเศรษฐกิจเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและระบบอัตโนมัติรูปแบบใหม่ (new forms of automation - การมาของเอไอทำงานแทนที่มนุษย์) รายได้ขั้นพื้นฐานจะเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีพในอนาคต” เขากล่าว
 
งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า UBI อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้คนเกี่ยวกับการทำงาน ในปี 2022 ชาวอเมริกัน 19% กล่าวว่า สิ่งนี้จะช่วยบรรเทาความผิดหวังกับงานของพวกเขา


 
 

UBI ในสหรัฐอเมริกา

 
ในสหรัฐอเมริกา แนวคิดดังกล่าวเป็นที่รู้จักอย่างมาก จะการที่ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต แอนดรูว์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานร่วมของพรรค Forward Party ชูประเด็นการเอาระบบ UBI มาใช้ในสังคมอเมริกัน โดยเสนอให้เงินชาวอเมริกันทุกคนคนละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน 
 
ขณะที่คนดังระดับโลก อย่าง Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta, Elon Musk บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ Richard Branson ต่างก็สนับสนุนแนวทาง UBI เช่นกัน
 
 
ทั้ง Musk และ Branson ต่างกล่าวว่าการเกิดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์และผลกระทบที่จะมีต่องานคือเหตุผลสำคัญที่พวกเขาเชื่อว่า UBI เป็นสิ่งจำเป็น


 
 
 
 

ความเห็นต่างต่อ UBI

 
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งมีความเห็นว่า UBI มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป และไม่ยั่งยืน หรือเงินของรัฐบาลสามารถใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านมาตรการสนับสนุนทางสังคมอื่น ๆ ซึ่งสามารถกำหนดเป้าหมายได้มากขึ้น
 
บางคนยังแสดงความกังวลว่า UBI อาจเข้ามาแทนที่สิทธิประโยชน์พื้นฐานอื่นๆ ที่มีอยู่เดิมไป (ยกเลิกสิทธิต่างๆเดิม เพราะได้เงินก้อนนี้แล้ว) ก็เป็นได้
 
ผลิตภาพที่ลดลง ก็เป็นอีกประเด็นน่ากังวลที่จะเป็นผลจาก UBI ที่ไร้ข้อผูกมัด ด้วยเกรงว่า ประชาชนพลเมืองที่ได้รับเงินง่ายๆ จะไร้ซึ่งแรงจูงใจจะทำงานอีกต่อไป 
 
ผลผลิตที่ลดลงก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นกัน เนื่องจากบางคนเชื่อว่าผู้คนจะไม่มีแรงจูงใจในการทำงานหากได้รับเงินสดแบบไม่มีเงื่อนไข
 
 
แม้ว่าแนวคิด UBI จะมุ่งหวังในผลเลิศว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในสังคมก็ตาม แต่ผลการวิจัยและข้อมูลอื่นๆ กลับไม่ให้ผลลัพธ์เช่นนั้นเสียทีเดียว แต่มีผลที่แตกต่างกันไปหลากหลาย ซึ่งโครงการทดลองในสหราชอาณาจักร ตามแผนของ Autonomy ครั้ง น่าจะช่วยให้ได้เห็นภาพและข้อมูลที่ชัดมากขึ้น ที่จะนำไปสู่การพัฒนาหลักเกณฑ์และแนวคิด ตลอดจนนำไปสู่นโยบายทางการเมืองต่อไปได้  และอาจเป็นต้นแบบให้กับรัฐต่างๆทั่วโลกได้อีกด้วย
 
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด