นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ธุรกิจด้านการแพทย์และความงาม ถือเป็นธุรกิจที่มาแรงติดอันดับ 1 ใน 10 ของทุกๆปี ยิ่งหลังจากสิ้นสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลต่อพฤติกรรมของประชาชนให้เริ่มหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้สถานพยาบาลหลายแห่งอาศัยการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล มาใช้ในการแข่งขันในด้านธุรกิจ
จากการเฝ้าระวังโฆษณาสถานพยาบาลผ่านสื่อโซเชียล ของศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กรม สบส. ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม – 20 พฤศจิกายน 2566 พบว่าจากการตรวจสอบโพสต์โฆษณาสถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ จำนวน 10,638 โพสต์ มีโพสต์ที่เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายโฆษณาสถานพยาบาล จำนวน 5,483 โพสต์ คิดเป็นร้อยละ 51.5 ของจำนวนโพสต์ทั้งหมดที่ตรวจสอบ
โดยมีสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับโพสต์โฆษณาดังกล่าว 417 แห่ง
จากความผิดที่พบ กรม สบส.ได้ดำเนินการเปรียบเทียบคดีสถานพยาบาล ในเขตกรุงเทพมหานครไปแล้ว 150 แห่ง
ซึ่งผู้กระทำผิดมักจะกล่าวอ้างว่าไม่ทราบข้อกฎหมายว่าการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลจะต้องขออนุมัติและได้รับอนุมัติให้โฆษณาสถานพยาบาลก่อนเผยแพร่ หรือรูปแบบของข้อความ ภาพ หรือเสียง แบบใดที่ทำการโฆษณาแล้วผิดกฎหมาย
จากเหตุผลกล่าวอ้างจำนวนมากเหล่านั้น จึงเป็นที่มาให้ กรม สบส. จัดการอบรม “การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง” ผ่านระบบออนไลน์ขึ้น ในวันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566 โดยเชิญวิทยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ แพทยสภา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกรม สบส. มาร่วมให้ความรู้
ด้านนายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การอบรมฯในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นในการให้รายละเอียดที่เป็นคลังความรู้ให้กับสถานพยาบาล ในด้านเชิงกฎหมายต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและผู้ที่เกี่ยวข้อง เกิดความเข้าใจ สามารถดำเนินการโฆษณาสถานพยาบาลได้อย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีการยื่นขออนุมัติโฆษณาสถานพยาบาลกับผู้อนุญาต คือ กรม สบส.หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในพื้นที่ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจต่อผู้รับบริการว่า โฆษณาของสถานพยาบาลดังกล่าวไม่เป็นข้อมูลเท็จหรือโอ้อวดเกินจริง
ทั้งนี้ หากผู้ใดกระทำการเผยแพร่โฆษณาหรือประกาศของสถานพยาบาล เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ได้ขออนุมัติและได้รับอนุมัติจากผู้อนุญาต จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา และหากตรวจสอบพบว่าโฆษณาดังกล่าว เข้าข่ายเป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา