ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สธ.จัดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2 แสนโดส ให้กลุ่มผู้ให้บริการสาธารณะแก่นักท่องเที่ยว

สธ.จัดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2 แสนโดส ให้กลุ่มผู้ให้บริการสาธารณะแก่นักท่องเที่ยว HealthServ.net
สธ.จัดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2 แสนโดส ให้กลุ่มผู้ให้บริการสาธารณะแก่นักท่องเที่ยว ThumbMobile HealthServ.net

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่กลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติมในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้การท่องเที่ยวปลอดภัย ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดเพิ่มเติม จำนวน 200,000 โดส ให้กับกลุ่มเสี่ยงผู้ให้บริการสาธารณะแก่นักท่องเที่ยว เสริมสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวและผู้ให้บริการสาธารณะแก่นักท่องเที่ยว

 8 มกราคม 2567 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย มีแนวโน้มพบผู้ป่วยลดลง ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 ธันวาคม 2566 ยังคงมีรายงานผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง พบผู้ป่วย 472,222 ราย และพบผู้เสียชีวิต 29 ราย ในจังหวัดนครราชสีมา 8 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 ราย จังหวัดสงขลา กรุงเทพมหานคร เพชรบูรณ์ กาฬสินธุ์ สุรินทร์ และตาก จังหวัดละ 2 ราย จังหวัดพิษณุโลก ชัยภูมิ ราชบุรี นครศรีธรรมราช ปทุมธานี และลำพูน จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A


        จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ระยอง รองลงมา คือ พะเยา ภูเก็ต กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ตามลำดับ ส่วนกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 5 - 9 ปี รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 0 - 4 และกลุ่มอายุ 10 - 14 ปี ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่พบการระบาดในพื้นที่ที่เป็นเมืองใหญ่ และมีประชากรหนาแน่น


         เพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของโรคเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว และส่งเสริมให้การท่องเที่ยวปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุขได้เห็นความสำคัญ จึงได้จัดหาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดเพิ่มเติม จำนวน 200,000 โดส ให้กับผู้ให้บริการสาธารณะแก่นักท่องเที่ยว ได้แก่
  • ผู้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น พนักงานขับรถแท็กซี่ พนักงานขับรถประจำทาง
  • ผู้ให้บริการสถานที่พัก เช่น พนักงานโรงแรม โฮมสเตย์ อพาร์ทเม้นท์ เป็นต้น
  • ผู้ประกอบการสถานบริการ เช่น ผับบาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหาร นวดสปา หรือสถานที่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน 

          เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยนำร่องในพื้นที่ 31 จังหวัดนำร่องพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดโรคและภัยสุขภาพ ครอบคลุมทั้ง 13 เขตสุขภาพทั่วประเทศ


 

 

แนวทางดูแลป้องกัน

 
       นายแพทย์ธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางในการป้องกันควบคุมโรค โดยแนะนำให้ผู้ให้บริการสาธารณะแก่นักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนทั่วไปปฏิบัติตน ดังนี้

       1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือในกรณีที่มือไม่เปรอะเปื้อน

       2. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น

       3. ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด

       4. กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ นม ไข่ กินอาหารปรุงสุกใหม่ๆ และใช้ช้อนกลาง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

       5. ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดี เป็นเวลานานโดยไม่จำเป็น หากสงสัยป่วย แนะนำให้สวมหน้ากากทุกครั้ง เมื่อใกล้ชิดกลุ่ม 608 และเด็กเล็ก รวมทั้งเน้นกลุ่มเสี่ยง 608 สวมหน้ากากในที่สาธารณะ ผู้มีโรคเรื้อรังที่ยังไม่ได้รับวัคซีนควรรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน

       6. เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวและสิ่งของที่มีคนสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล สถานประกอบการ เป็นต้น

       7. สำหรับสถานประกอบการต่างๆที่ให้บริการนักท่องเที่ยว ควรจัดเตรียมที่สำหรับล้างมือ หรือ เจลแอลกอฮอล์ ไว้ให้นักท่องเที่ยว และหมั่นทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ที่มีการสัมผัสร่วมกันเป็นจำนวนมาก เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น


       หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว เพราะอาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก และอาจทำให้เสียชีวิตได้  ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด