ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ดีอีแถลงความคืบหน้า ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพกลาง Health Information Exchange (HIE)

ดีอีแถลงความคืบหน้า ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพกลาง Health Information Exchange (HIE) Thumb HealthServ.net
ดีอีแถลงความคืบหน้า ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพกลาง Health Information Exchange (HIE) ThumbMobile HealthServ.net

ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพประเทศไทย (Health Information Exchange - HIE) เป็นระบบกลางที่บูรณาการพัฒนาร่วมกันระหว่างสธ. (MOPH Cloud) กับดีอี (Health Link) เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติสุขภาพและการรักษาระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ

                10 กรกฎาคม 2567  นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบไร้รอยต่อ และอำนวยความสะดวกในการให้และใช้บริการภาครัฐให้กับประชาชน ถือเป็นหนึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผลักดันให้เกิดระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange - HIE) ระดับประเทศ โดยการพัฒนาระบบ Health Link และ คลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud)  ขึ้นมา มีการกำหนดมาตรฐานกลางร่วมกับโรงพยาบาลในภาคี พร้อมผลักดันให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานสำคัญในแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ เพื่อขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ
 
 
             ระบบ HIE เป็นระบบที่จะเชื่อมโยงและใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติสุขภาพและการรักษาระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูล โดยต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ป่วยเท่านั้น รวมถึงในกรณีการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน (หมดสติ) ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและการส่งต่อ นอกจากนี้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) (Big Data Institute: BDI) ดีอี และ สธ. ยังได้ร่วมกันวางแผนขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ รวมทั้งกำหนดแผนปฏิบัติการ และกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพที่สามารถนำไปใช้พัฒนาระบบบริการสุขภาพทั่วประเทศ โดย ดีอี เริ่มจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร
 
 

             ระบบ HIE ได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยจังหวัดนครราชสีมาในหน่วยบริการปฐมภูมิและ โรงพยาบาลนอกสังกัด สธ จากนั้น ดีอี จะจับมือกับ สธ. ผ่านโครงการคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud)  ขยายผลให้ครอบคลุมทุกหน่วยบริการ และจะผลักดันจังหวัดนครราชสีมาสู่การเป็นต้นแบบในการบูรณาการข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ รวมถึงจัดทำแผนงบประมาณระยะยาว ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน


             ทั้งนี้ ปัจจุบัน Health Link มีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมโครงการแล้ว 400 แห่งทั่วประเทศ ประชาชนที่สนใจสมัคร Health Link ฟรีผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ “ThaID” สามารถศึกษารายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: https://healthlink.go.th/
 
           
 
             “ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ระบบ Health Link จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ เกิดการรักษาแบบไร้รอยต่อ ทำให้แพทย์สามารถดูประวัติการรักษาข้ามสถานพยาบาลนอกสังกัด ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยในการตรวจวินิจฉัยซ้ำซ้อน และสามารถได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ทันท่วงที ทั้งยังสอดรับตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่อีกด้วย” นางรัดเกล้า กล่าว
ดีอีแถลงความคืบหน้า ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพกลาง Health Information Exchange (HIE) HealthServ

รมว.ดีอี แถลงข่าวความคืบหน้าโครงการ


             12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) ร่วมกันแถลงความคืบหน้าโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ (Health Information Exchange: Health Link) ณ ห้องประชุม MDES1 ชั้น 9 กระทรวงดีอี พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ BDI โดยผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ Health Link เข้าสู่แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ นำไปสู่การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลอย่างยั่งยืน
 
 
             นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า เพื่อสอดรับนโยบายรัฐบาลในการผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) กระทรวงดีอี จึงมีความมุ่งมั่นเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Nation) เพื่อประกอบกับการให้บริการพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มและกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BDI รวมไปถึงการประสานความร่วมมือกับสถานพยาบาลภาคีเครือข่ายทั่วประเทศและอีกหลายหน่วยงาน ล้วนเป็นการเดินหน้าการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนระบบข้อมูลสุขภาพที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่มุ่งมั่นผลักดันทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
 
 
             ปัจจุบันโครงการ Health Link ได้รับความร่วมมือจากสถานพยาบาลในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และจะขยายเพิ่มมากขึ้นให้ครอบคลุมทั้งประเทศ และกระทรวงดีอีจะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผ่านโครงการคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud) รวมถึงจัดทำแผนงบประมาณระยะยาว ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ จากความสำเร็จของโครงการ Health Link ในวันนี้ กระทรวงดีอีพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ BDI และภาคีเครือข่าย โดยจะผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มบูรณาการข้อมูลเข้าสู่แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ นำไปสู่แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลอย่างยั่งยืน
 
 
             รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) กล่าวว่า BDI ได้ดำเนินการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้เป็นต้นแบบการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทุกระดับตั้งแต่ปฐมภูมิ ทุติยภูมิและตติยภูมิ และจะขยายไปพื้นที่อื่นๆ ปัจจุบันมีสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการ Health Link กว่า 465 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สังกัดกระทรวงกลาโหม โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลเอกชน คลินิกชุมชนอบอุ่น ร้านยา
 


             นอกจากนี้ BDI ยังได้มีการพัฒนาระบบให้ความยินยอมรายครั้งด้วยรหัส OTP ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟนให้สามารถเข้าถึงบริการได้ โดยระบบ OTP ที่ทาง BDI นำมาใช้จะมีความปลอดภัย คือ ประชาชนต้องอยู่ที่จุดบริการสาธารณสุขเท่านั้น และเตรียมขยายการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยหน่วยนวัตกรรมที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ให้ครอบคลุมการบริการสุขภาพภายใน กทม. ภายในปลายปีนี้ รวมทั้ง BDI ได้ร่วมมือกับ สปสช. ในการบูรณาการข้อมูลเพื่อลดขั้นตอนและเวลาในการเบิกจ่าย พร้อมจัดทำแดชบอร์ดตรวจสุขภาพเพื่อประกอบการวางนโยบายสาธารณสุข  เสริมศักยภาพหน่วยบริการในการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพสอดรับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียว
 


             โครงการ Health Link คือ แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยให้แพทย์ สามารถดูประวัติการรักษาได้ทันที สะดวก ง่าย ปลอดภัย พร้อมมีระบบการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยกลไกการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยยืนยันตัวตนของประชาชน และแพทย์ การเข้ารหัสข้อมูลและระหว่างจัดส่งข้อมูล รวมถึงมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ 

 
ดีอีแถลงความคืบหน้า ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพกลาง Health Information Exchange (HIE) HealthServ

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด