นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีบริษัท ไฟเซอร์ ประกาศผลการวิเคราะห์เบื้องต้นของการทดสอบวัคซีนโควิด 19 ในคนมีประสิทธิผลป้องกันได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นความหวังที่จะมีวัคซีนใช้ในระยะเวลาอันใกล้ โดยวัคซีนดังกล่าวเป็นรูปแบบ mRNA ซึ่งประเทศไทยมีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กำลังพัฒนาวัคซีนรูปแบบเดียวกันนี้ ก็เป็นความหวังที่จะพัฒนาต่อ และสามารถนำผลการทดสอบในมนุษย์มาเปรียบเทียบกันได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ยังต้องติดตามผลการทดสอบต่อไป เนื่องจากยังทดสอบในอาสาสมัครเพียง 3.8 หมื่นกว่าคน จาก 4.3 หมื่นกว่าคน และต้องดูประสิทธิผลการป้องกันในระยะยาวว่า ภูมิคุ้มกันจะอยู่ได้นานเท่าไร และต้องฉีดกระตุ้นเพิ่มเติมหรือไม่ รวมทั้งภูมิคุ้มกันตัวไหนที่เป็นตัวกำหนดการป้องกันโควิด 19 โดยประเทศไทยจะมีการหารือกับบริษัทนี้ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายน โดยเป็นการเจรจาขอข้อมูลระหว่างกันเพื่อตัดสินใจในเชิงนโยบายต่อไป มีการนัดหมายตั้งแต่ยังไม่ทราบผลการทดสอบในมนุษย์ สำหรับการเตรียมบริการวัคซีนโควิด 19 ประเทศไทยมีแผนเตรียมวัคซีนให้แก่คนไทย 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากร โดยกลุ่มแรกที่จะให้วัคซีนน่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการเกี่ยวกับโรคโควิด 19 ส่วนประชากรกลุ่มอื่น จะพิจารณาจากข้อมูล เช่น อัตราการป่วย อัตราการเสียชีวิต กลุ่มใดที่อ่อนแอเสี่ยงเสียชีวิต คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2563 ก่อนจะเสนอคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ การให้บริการขึ้นกับจำนวนวัคซีนที่จัดหา
สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
10 พฤศจิกายน 2563