บรรยากาศงานนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ หรือพระบาทพลวง ซึ่งเปิดให้นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้านมัสการ เริ่มคึกคัก
ปีนี้อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ได้เปิดนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) ระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 22 มีนาคม 2566
การกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาใน 1 วัน เริ่มตั้งแต่ ช่วงเวลา 0.00 น.- 06.00 น. ช่วงเวลา 06.00 - 12.00 น. ช่วงเวลา 12.00 - 18.00 น. และเวลา 18.00 - 24.00 น. จำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละช่วงเวลา ประมาณ 6,000 คน โดยอุทยานฯ ได้พิจารณาตามขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ คำนวณจากพื้นที่ใช้สอยบริเวณที่จัดงานประเพณี การจองขึ้นนมัสการฯ จะเปิดจองในแอปพลิเคชัน KCKQue (พระบาทเขาพลวง) วันละ 4,500 คน / ช่วงเวลา ผู้ที่จองหน้างาน 1,500 คน / ช่วงเวลา
การเดินทางขึ้นไปนมัสการ ประจำปี 2566 มี 2 วิธี คือ 1. ขึ้นรถ ที่คิวรถวัดกะทิง หรือคิวรถวัดพลวง 2. เดินเท้า โดยเดินทางหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ คก.1 (พระบาทพลวง) เดินทางบ้านแกลง ต.พลวง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โทร. 039 609 672
ในทุก ๆ ปี ก่อนเริ่มเทศกาลนมัสการรอยพระบาทพลวง จังหวัดจันทบุรี จะมีพิธีบวงสรวง “ปิดป่า-เปิดเขา” ในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 2 ปีนี้ ตรงกับวันที่ 20 มกราคม 2566 โดยมีพราหมณ์เป็นผู้ประกอบพิธี เริ่มต้นด้วยชุมนุมเทวดา อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่บนเขาพระบาทมาเป็นสักขีพยานรับเครื่องสังเวยขอให้ช่วยปกป้องอภิบาลรักษาผู้มานมัสการให้พ้นจากอันตราย และพิธีบวงสรวง “เปิดป่า-ปิดเขา” ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2566 เพื่อขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และคืนป่าให้กับสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณพระบาทพลวงแห่งนี้
วันบวงสรวง : วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 (แรม 14 ค่ำ เดือนยี่ (2) ปีเถาะ)
วันปิดป่า-เปิดงาน : วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือนสาม (3) ปีเถาะ)
วันเปิดป่า-ปิดงาน : วันพุธที่ 22 มีนาคม 2566 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือนห้า (5) ปีเถาะ)
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้เรื่อยๆ ที่เพจ ททท.สำนักงานจันทบุรี
Facebook : ททท.สำนักงานจันทบุรี
Line OA: @tatchanthaburi
โทร.039-480220
วัดพลวง โทร. 097-9541650
30 ม.ค. 66 บรรยากาศงานนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ หรือพระบาทพลวง ซึ่งเปิดให้นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้านมัสการ เริ่มคึกคัก
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำจันทบุรี ครอบคลุมพื้นที่อำเภอมะขาม และอำเภอเขาคิชฌกูฏ ด้วยสภาพป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบ มีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งพันธุ์ไม้หายาก เช่น ไม้กฤษณา และมีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น กระทิง เสือ หมี กวาง เก้ง เลียงผา รวมทั้งนกชนิดต่าง ๆ ตามลำห้วยมีปลาพลวง ปลาก้าง ปลาหนวด ปลาดุกรำพัน อาศัยอยู่ ไฮไลต์แห่งอุทยานฯ น้ำตกกระทิง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาคิชฌกูฏ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 13 ชั้น ใช้เวลาเดินไปกลับ 3 ชั่วโมง ข้อดีของที่นี่คือเป็นน้ำตกที่สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย และชั้นที่สวยงามที่สุดคือชั้นที่ 8-9 ระหว่างทางจะผ่านป่าไผ่และพันธุ์ไม้หลากชนิด นอกจากนี้ยังมีชายหาดขนาดใหญ่ริมธารน้ำตกที่เกิดจากทรายที่ถูกน้ำป่าพัดลงมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2542 ลำธารชั้นล่างของน้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 100 เมตร
ยอดเขาพระบาท ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ การเดินทางไปที่นี่ต้องเริ่มต้นที่วัดพลวงไปตาม ถนนลูกรังที่ลาดชันและคดเคี้ยวมาก ระยะทาง 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 1.2 กิโลเมตร ระหว่างทางมีจุดแวะพักให้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทิวทัศน์บนยอดเขาคิชฌกูฏหรือเขาพระบาทนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ศิลาเจดีย์ รอยพระพุทธบาทหลวง หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤๅษี หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ และหากต้องการเดินต่อไปจนถึงเขตผ้าแดง จะต้องเดินขึ้นเขาต่อจากลานพระบาทไปอีก 800 เมตร จากบนยอดเขาพระบาท สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน
เฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี จะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืนเป็นจำนวนมาก (สำหรับผู้สูงอายุมีไม้เท้าให้เช่า ราคาอันละ 5 บาท และบริการแคร่แบกหามในราคาเที่ยวละ 400 บาท) การเดินทางไปยังยอดเขานั้น สามารถเดินทางได้โดยเริ่มจากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (ทางขึ้นคนละจุดกับอุทยานฯ ) เมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวทิ้งไว้ (มีลานจอดรถไว้บริการ) จากนั้นมีรถสองแถวบริการขึ้นเขาพระบาท ออกจากวัดพลวงไปสิ้นสุดที่บริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาท โดยรถที่ขึ้นยอดเขาแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) มีรถบริการตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นไปรอยพระบาท สอบถามรายละเอียดได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ โทรศัพท์ 0 3945 2074