สิงคโปร์—28 ธ.ค. 2565—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ออสทีโอพอร์ก่อตั้งขึ้นในปี 2546 โดยนักลงทุนกลุ่มเล็ก ๆ จากสถาบันสิงคโปร์อย่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติ (NUH) และเทมาเส็ก โพลีเทคนิค (TP) ด้วยจุดประสงค์พื้นฐานในการมุ่งหาและวิเคราะห์วัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
ปัจจุบัน ออสทีโอพอร์เป็นผู้บุกเบิกระดับโลกในเรื่องโซลูชันฟื้นฟู โดยประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการนำเสนอวัสดุปลูกถ่ายแบบย่อยสลายได้ทางชีวภาพตัวแรกที่นำไปใช้ผ่าตัดได้ และเมื่อขยายธุรกิจไปโคลอมเบียและแอฟริกาใต้แล้ว ออสทีโอพอร์ก็ทำธุรกิจได้แข็งแกร่งขึ้นในตลาดอเมริกาใต้และแอฟริกา และหวังผลักดันธุรกิจให้เติบโตในปีการเงินใหม่นี้
เข้าถึงระบบสาธารณสุขของรัฐบาลสหรัฐ
ในช่วงต้นปี 2565 ออสทีโอพอร์ได้ลงนามในสัญญาโดยไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียวกับบริษัทเมลลิงเมดิคอล แอลแอลซี (MellingMedical LLC) เพื่อสนับสนุนและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทในศูนย์บริการสุขภาพ 560 แห่งที่รัฐบาลกลางของสหรัฐเป็นเจ้าของหรือผู้ดูแล บริษัททำงานร่วมกับผู้จัดจำหน่ายรายหนึ่งในสหรัฐ เปิดโอกาสให้ทหารผ่านศึกเข้าถึงอุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์ และยาคุณภาพดีได้มากขึ้น ผ่านรายการผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่คัดสรรมาอย่างครอบคลุม
เมื่อผลิตภัณฑ์ของออสทีโอพอร์มีการนำไปใช้ตามศูนย์การแพทย์กิจการทหารผ่านศึก (VA) กว่า 165 แห่ง คลินิกผู้ป่วยนอกในสังกัดกระทรวงการทหารผ่านศึก 300 แห่ง หน่วยจ่ายยาในโครงการเภสัชกรรมผู้ป่วยนอกผ่านระบบไปรษณีย์รวม 7 แห่ง และศูนย์การแพทย์กระทรวงกลาโหม 95 แห่ง ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทพร้อมนำเสนอบริการคุณภาพสูงเพื่อมอบประโยชน์ให้ชุมชนต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ออสทีโอพอร์จ่อตีตลาดจีน
ออสทีโอพอร์ได้เซ็นสัญญากับบริษัท คอนทัวร์ (ซีอาน) เมดิคอล เทคโนโลยี จำกัด หรือ Kontour (Xi’an) Medical Technology Co. Ltd เพื่อหาช่องทางตีตลาดบริการสุขภาพในจีน นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในการทำการค้า เพราะตลาดจีนเป็นตลาดสำคัญในแผนส่งเสริมการเติบโตและความก้าวหน้าของออสทีโอพอร์ในอนาคต
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่ออสทีโอพอร์ได้รับทุนสนับสนุนจากคณะกรรมการ A*STAR เมื่อปี 2564 เพื่อตั้งหลักทำธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมซูโจว
ออสทีโอพอร์หวังขยายตลาดเพื่อเพิ่มการเข้าถึงและทำให้เวชศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลก นอกจากนี้ ออสทีโอพอร์ยังหวังที่จะเดินหน้าพัฒนาและนำเวชปฏิบัติที่ยั่งยืนมาปรับใช้ เพื่อลดความถี่ในการทำหัตถการหลังผ่าตัด