ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โรงพยาบาลสงฆ์จัดตั้ง กุฏิชีวาภิบาล ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย

โรงพยาบาลสงฆ์จัดตั้ง กุฏิชีวาภิบาล ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย HealthServ.net
โรงพยาบาลสงฆ์จัดตั้ง กุฏิชีวาภิบาล ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย ThumbMobile HealthServ.net

โรงพยาบาลสงฆ์ ร่วมมือกับคณะพระสังฆาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งองค์กรภาคีเครือข่าย ด้านการแพทย์ การสาธารณสุขในพื้นที่ ร่วมขับเคลื่อนโครงการกุฏิชีวาภิบาล พร้อมมีการอบรมถวายความรู้พระคิลานุปัฏฐาก ให้สามารถดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย โดยทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลพระสงฆ์อาพาธเสมือนเป็น อสว. เพื่อให้พระสงฆ์อาพาธระยะท้าย มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยี (Virtual Hospital) อันทันสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้พระสงฆ์เข้าถึงการบริการอย่างมีประสิทธิภาพ


 
             นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลสงฆ์ มีการดำเนินการเพื่อสนองนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 ข้อที่ 8 (Quick win) เรื่องสถานชีวาภิบาล เพื่อให้มีการจัดสถานที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยระยะท้าย หรือการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Ward/Hospital at Home) จากข้อมูลสถิติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประจำปี 2564 ประเทศไทยมีวัดทั้งสิ้นจำนวน 43,562 วัด มีพระภิกษุสามเณร ประมาณ 241,368 รูป พบว่าพระอาพาธระยะท้าย เป็นจำนวน 9,655 รูป จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินโครงการ “กุฏิชีวาภิบาล” เพื่อให้การดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีพระคิลานุปัฏฐากที่ผ่านการอบรมถวายความรู้ตามหลักสูตร “การดูแลพระอาพาธระยะท้ายของพระคิลานุปัฏฐาก” ที่เน้นการดูแลสุขภาพพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ  เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้พระคิลานุปัฏฐาก มีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ที่วัด ซึ่งนอกจากจะสามารถให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ภายในวัดแล้ว ท่านยังสามารถให้ความรู้ให้การช่วยเหลือแก่ญาติโยมประชาชนในชุมชน เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ทำให้พระสงฆ์แข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุขตามวิถีชีวิตและบริบทสังคมไทย    
 
           ด้านนายแพทย์อภิชัย สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลสงฆ์ให้ความสำคัญกับการดูแล สุขภาพพระสงฆ์มาโดยตลอด จากข้อมูลสถิติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พบว่าประเทศไทยมีพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งพระสงฆ์เองมีวัตรปฏิบัติต่างจากฆราวาสทั่วไป ต้องปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย เมื่ออาพาธติดเตียงหรือเจ็บป่วยระยะท้าย ท่านก็มีความประสงค์จะขอกลับวัด แต่สถานที่ที่จะรับรองความเจ็บป่วยมีจำนวนน้อยหรือบางวัดก็ไม่มี โรงพยาบาลสงฆ์ จึงได้จัดทำโครงการ “กุฏิชีวาภิบาล” เพื่อเป็นสถานที่ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย โดยนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Virtual Hospital) มาสนับสนุนการให้บริการ เพื่อให้พระสงฆ์เข้าถึงการบริการอย่างมีคุณภาพมีการสอดรับกันระหว่างวัดและโรงพยาบาล รวมทั้งได้มีการพัฒนาศักยภาพพระคิลานุปัฏฐากที่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมอนามัยจำนวน 70 ชั่วโมง มารับการอบรมถวายความรู้เพิ่มเติมภาคทฤษฎีอีก 5 วัน และภาคปฏิบัติในโรงพยาบาลอีก 15 วัน เรื่องของการดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย ทั้งนี้โรงพยาบาลสงฆ์ยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการอุปัฏฐากพระสงฆ์อาพาธที่เอื้อต่อพระธรรมวินัยให้กับบุคลากรในพื้นที่เขตสุขภาพทั่วประเทศ ทั้ง 13 เขตสุขภาพ
 


           พร้อมทั้งได้กำหนดจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบ จำนวน 4 แห่งในเบื้องต้น ได้แก่
           1. วัดท่าประชุม จังหวัดขอนแก่น (เขตสุขภาพที่ 7)
           2. วัดทับคล้อ จังหวัดพิจิตร (เขตสุขภาพที่ 3)
           3. วัดบุญนารอบ จังหวัดนครศรีธรรมราช (เขตสุขภาพที่ 11) 
           4. วัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี (เขตสุขภาพที่ 4) 

           โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2570 จะดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลให้ครบทุกเขตสุขภาพ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งคณะพระสังฆาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งภาคีเครือข่ายด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นต้น
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด