ระวังไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่มักแพร่ระบาดในฤดูฝน เกิดจากเชื้อไวรัส โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ปัจจุบันมักเป็นเด็กโตและผู้ใหญ่มากกว่าเด็กเล็ก เรามาทำความเข้าใจเจ้าโรคนี้กันเถอะค่ะ
อาการของโรค
- หลังจากได้รับเชื้อจากยุงลายกัด ประมาณ 5 – 8 วัน จะเริ่มมีอาการไข้สูง 39 – 40 องศา C ติดต่อกัน 3 –5 วัน
- ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามแขนขา ปวดท้อง เจ็บลิ้นปี่ อาเจียน เบื่ออาหาร ไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ
- บางรายมีเลือดกำดาวหรือจุดเลือดออก เป็นผื่นแดงเล็กๆ ใต้ผิวหนัง
- ในรายที่มีอาการรุนแรงซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายของภาวะช็อค คือ ในขณะที่ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะกระสับกระส่าย เหงื่อออกตัวเย็น ชีพจรเต้นเบา หายใจเหนื่อยหอบ
- อาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้ มีอาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย
- ปัสสาวะน้อยลง ซึมมาก ต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
- หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องในช่วงนี้ ผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตได้
- ส่วนในรายที่มีอาการไม่รุนแรง เมื่อไข้ลดอาการต่างๆ จะดีขึ้น และหายเป็นปกติใน 5 วัน
การติดต่อ
- โดยยุงลายเป็นตัวนำ ลัดษณะยุงลาย ตัวแก่ เป็นยุงขนาดเล็ก มีสีดำสลับขาวเป็นปล้องเห็นชัดเจนที่ขา หากินเวลากลางวันและพบเฉพาะบริเวณบ้านคนอาศัยอยู่ เพราะชอบวางไข่ในภาชนะทุกชนิดเช่น ตุ่มน้ำดื่มน้ำใช้ ที่รองกระถาง แจกัน ขวด กะลา ยางรถยนต์เก่าๆที่มีน้ำขัง
- ยุงลายตัวเมีย 1 ตัวสามารถกัดคน และถ่ายเชื้อไข้เลือดออกได้วันละหลายๆครั้ง ส่วนใหญ่ ยุงลายมักกัดเวลากลางวัน
การป้องกัน
ถ้าผู้ป่วยมีไข้สูงติดต่อกันเกิน 3 วัน ให้พาไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง ระวังไม่ให้ยุงกัดในเวลากลางวัน กำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายปิดฝาภาชนะเก็บน้ำให้มิดชิด
การรักษา
- ยังไม่มียาต้านไวรัส
- ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น ๆ
- กินยาลดไข้พาราเซตามอลได้ งดแอสไพรินเด็ดขาด
- ดื่มน้ำชดเชยมากๆ และพามาพบแพทย์