ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 11 ราย ยังอยู่ใน อ.ตากใบ

โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 11 ราย ยังอยู่ใน อ.ตากใบ Thumb HealthServ.net
โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 11 ราย ยังอยู่ใน อ.ตากใบ ThumbMobile HealthServ.net

ไม่มีการแพร่ออกไปพื้นที่อื่น จะมีการเก็บตัวอย่างเชื้อ ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ยะลา สงขลา พัทลุง มาตรวจเพิ่มเติม รักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่และหายแล้ว 3 ราย

โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 11 ราย ยังอยู่ใน อ.ตากใบ HealthServ
25 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงเชื้อโควิด 19 กลายพันธุ์ ว่า ตามธรรมชาติของเชื้อไวรัสโควิด 19 มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา หากมีการแพร่เชื้อมากขึ้น โอกาสเกิดการกลายพันธุ์ได้มากขึ้น ซึ่งการเฝ้าระวังมี 2 ระดับ คือ

1.ระดับที่น่าสนใจ (Variant of Interest) ที่ต้องติดตามกันต่อ และ
2.ระดับที่น่าห่วงกังวล (Variant of Concern) เช่น สายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้ แคลิฟอร์เนีย เป็นต้น

โดยประเทศไทยมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการในการสุ่มตรวจเพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่, พื้นที่ชายแดน, ในกลุ่มผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจหรือเสียชีวิต และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์อังกฤษ จากการสุ่มตรวจเชื้อ 1,300 กว่าตัวอย่าง พบสายพันธุ์อังกฤษ 1,200 กว่าตัวอย่างหรือ 93% มาแทนที่สายพันธุ์เดิมก่อนหน้าแล้วเพราะแพร่กระจายเร็ว ส่วนความรุนแรงไม่แตกต่างจากสายพันธุ์เดิม และภูมิคุ้มกันจากวัคซีนยังได้ผล

วิธีตรวจหาสายพันธุ์

การตรวจด้วยวิธี RT-PCR จะทราบแค่ว่าติดเชื้อหรือไม่ แต่จะไม่ทราบสายพันธุ์ ต้องใช้วิธีการตรวจพิเศษ ใน 3 วิธี คือ
  • การตรวจ RT PCR โดยการใช้น้ำยาเฉพาะต่อสายพันธุ์นั้น
  • การตรวจมุ่งเป้าเฉพาะส่วนของเชื้อไวรัส (Targeted sequencing) ใช้เวลา 1-2 วัน
  • การตรวจไวรัสทั้งตัว (Whole genome sequencing) ใช้เวลา 3-5 วัน มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ช่วยให้ทราบสายตระกูลของเชื้อว่ามีต้นทางมาจากที่ไหน
จากนั้นนำผลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับข้อมูลการตรวจสายพันธุ์ของแต่ละประเทศที่ส่งมาเป็นข้อมูลส่วนกลาง  เช่น การระบาดที่สมุทรสาครพบว่าเชื้อมาจากอินเดีย บังกลาเทศ และเข้ามาทางเมียนมา เป็นต้น

ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาให้ตรวจวิธีดังกล่าวได้มากกว่า 380 ตัวอย่างต่อสัปดาห์สูงกว่ามาตรฐานระดับโลก     

สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาในไทย

ประเด็นที่น่าเป็นห่วงและอยู่ในความกังวลของประชาชน คือสายพันธุ์อินเดีย และ สายพันธุ์แอฟริกา ที่พบในประเทศไทย มากขึ้น ล่าสุดรายงานดังนี้

สายพันธุ์อินเดีย
  • ตรวจพบในแคมป์ก่อสร้างเขตหลักสี่ที่พบ 36 ราย
  • ขยายการตรวจออกไปในพื้นที่อื่นของ กทม. ขณะนี้พบ 62 ราย
  • สายพันธุ์นี้แพร่กระจายเร็วเช่นเดียวกับสายพันธุ์อังกฤษ ความรุนแรงไม่แตกต่างกันมาก วัคซีนยังใช้ได้
  • ที่บอกว่าสายพันธุ์อินเดียจะหลบเข้าไปในปอด ตรวจหาเชื้อทางจมูกไม่เจอไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด

สายพันธุ์แอฟริกาใต้
  • ที่ตรวจพบ 11 ราย ยังอยู่ใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ไม่มีการแพร่ออกไปพื้นที่อื่น
  • จะมีการเก็บตัวอย่างเชื้อ ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ยะลา สงขลา พัทลุง มาตรวจเพิ่มเติม
  • ความรุนแรงของสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เนื่องจากประเทศไทยยังมีข้อมูลน้อยที่จะบอกความรุนแรง ส่วนต่างประเทศมีข้อมูลว่าอาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จึงต้องเฝ้าระวังต่อไป แต่เรารักษาผู้ป่วยอย่างเต็มที่และหายแล้ว 3 ราย
  • ขอให้ลดการเคลื่อนย้าย ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปพื้นที่อื่นๆ
          “แม้สายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย และแอฟริกาใต้ จะแพร่เร็ว แต่การป้องกันโรคโควิด 19 ไม่ได้ยึดว่าเป็นสายพันธุ์อะไร ใช้หลักการป้องกันควบคุมโรคเหมือนกัน ทั้งใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลดกิจกรรมเสี่ยงปาร์ตี้ สังสรรค์ลดการลักลอบข้ามแดนที่จะนำเชื้อกลายพันธุ์เข้ามา ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการกลายพันธุ์ในประเทศ ส่วนประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์แอฟริกาใต้แม้จะลดลงทุกตัว ขออย่ากังวลจนไม่ไปฉีดวัคซีน เพราะสายพันธุ์นี้ยังอยู่ใน อ.ตากใบ และยังไม่ได้มาแทนที่สายพันธุ์อื่น วัคซีนยังมีผลต่อสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบในประเทศเป็นส่วนใหญ่ จึงขอให้ทุกคนฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดอัตราป่วยและเสียชีวิต” นพ.ศุภกิจกล่าว
 
25 พฤษภาคม 2564

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด