ปรับเกณฑ์ – ขยายเวลา "คลินิกแก้หนี้" ถึง ธ.ค. 64
"คลินิกแก้หนี้ BY SAM" ขานรับมาตรการแบงก์ชาติ ช่วยลูกค้าช่วงโควิด-19 ระลอก 3 ขยายเวลาแจกยาแรง “จ่ายเท่าที่ไหว” ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่รับส่วนลดดอกเบี้ย 1-2% ถึงสิ้นปี พร้อมขยายเกณฑ์คุณสมบัติผู้สมัคร
นายธรัฐพร เตชะกิจขจร ผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM พร้อมดำเนินการตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) จำนวน 35 แห่ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 โดยต่ออายุมาตรการยาแรง "จ่ายเท่าที่ไหว" ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2564 ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 1-2% ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระเงินของลูกค้าเป็นสำคัญ
โดยแบ่งออกเป็น
1. ลูกค้าที่ชำระค่างวดเกินกว่าร้อยละ 80 ได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 2%
2.ลูกค้าที่ชำระค่างวดเกินร้อยละ 40 แต่ไม่ถึงร้อยละ 80 ได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 1% โดยส่วนลดดอกเบี้ยจะนำไปตัดเงินต้นในเดือนมกราคม 2565 ซึ่งจะทำให้ลูกค้าหมดหนี้เร็วขึ้น
มาตรการจะขยายออกไปจนถึงเดือนธ.ค. 64 โดยจะมีผลอัตโนมัติกับลูกหนี้ทุกรายและลูกหนี้ใหม่ในโครงการ ไม่ต้องลงทะเบียน ซึ่งลูกหนี้ต้องชำระหนี้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังผ่อนปรนปรับเกณฑ์การสมัครเข้าโครงการเพิ่มเติม ได้แก่
- ขยายเกณฑ์ด้านอายุ จากเดิมไม่เกิน 65 ปี เป็นไม่เกิน 70 ปี สามารถเข้าร่วมโครงการได้
- ปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ เป็นอัตราดอกเดียวที่ 5 % ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป
สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กำหนด ดังนี้คือ เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี มียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท และ เป็นหนี้เสียก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2564 และเพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร ตามแนวคิด เอกสารครบ-จบไว ควรเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (กรณีผู้มีรายได้ประจำ) / รายการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (กรณีอาชีพอิสระ)
- เอกสารรายงานเครดิตบูโร
คลินิกแก้หนี้ by SAM เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางออกนอกบ้านของลูกค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์
www.คลินิกแก้หนี้.com www.debtclinicbysam.com หรือ แอดไลน์ @debtclinicbysam และ
Facebook คลินิกแก้หนี้ หรือติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ สายด่วนชนะหนี้ 1443
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก คลินิกแก้หนี้
คำถาม-คำตอบ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้โครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อลดภาระและลดความกังวลใจเกี่ยวกับการชำระหนี้
1. จุดประสงค์ ระยะเวลาของมาตรการ และผู้ที่ได้รับสิทธิตามมาตรการนี้
- มาตรการนี้มุ่งลดภาระดอกเบี้ยจ่ายและลดความกังวลใจของลูกหนี้ในโครงการคลินิกแก้หนี้ที่รายได้ลดและกังวลใจว่าจะจ่ายหนี้ไม่ได้
- เป็นระยะเวลา 6 เดือน เมษายน-กันยายน 2563
- ลูกหนี้ของโครงการคลินิกแก้หนี้ได้รับสิทธิทุกคน
2. ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อรับสิทธิตามมาตรการครั้งนี้
- ลูกหนี้ของโครงการทุกคนได้รับสิทธิโดยอัตโนมัติ
- ไม่ต้องโทรมาที่ Call Center เพื่อขอรับสิทธิ
3. การเลื่อนกำหนดชำระค่างวด คืออะไรและมีผลอย่างไร
- การเลื่อนกำหนดชำระค่างวดออกไป 6 เดือนจากเม.ย. 2563 เป็นกันยายน 2563
- ในช่วง 6 เดือนนี้ โครงการฯ ผ่อนปรนถ้าไม่สามารถจ่ายค่างวดได้เต็มจำนวน จะไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ และไม่เสียประวัติในฐานข้อมูลเครดิต
- การเลื่อนกำหนดชำระค่างวด เป็นเพียงการผ่อนปรนเลื่อนวันครบกำหนดชำระออกไปเท่านั้น ภาระที่จะคืนยังมีอยู่เหมือนเดิม ในช่วงนี้แม้ว่าจะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแต่ดอกเบี้ยยังเดินอยู่ตามปกติ
4. ช่วง 6 เดือนนี้ถ้าจ่ายงวดได้ไม่ครบ จะมีผลต่อประวัติการผ่อนชำระในฐานข้อมูลเครดิตบูโรหรือไม่
- วันกำหนดชำระค่างวดได้เลื่อนออกไป 6 เดือน
- ดังนั้น ในช่วงนี้ถ้าจ่ายค่างวดได้ไม่ครบ หรือจ่ายไม่ได้เลย จะไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ ประวัติจึงไม่เสีย
5. สำหรับลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพ ที่สามารถจ่ายได้ตามปกติควรจะทำอย่างไร?
- ถ้าท่านเป็นลูกหนี้ที่มีศักยภาพ มีเงินพอที่จะชำระหนี้ตามแผนเดิม ท่านควรจ่ายชำระตามแผนเดิมเพราะจะทำให้ภาระหนี้ของท่านลดลง
- การผ่อนชำระเข้ามาตามปกติในช่วง เม.ย-ก.ย.63 จะทำให้ได้รับสิทธิพิเศษลดดอกเบี้ย 2% จากอัตราปกติ
- มาตรการผ่อนปรนการชำระค่างวดเป็นเพียงการผ่อนปรนเลื่อนกำหนดชำระออกไปเท่านั้น และช่วงที่เลื่อนออกไปยังคิดดอกเบี้ยตามปกติ
6. มาตรการผ่อนปรนในครั้งนี้หมายความว่า ลูกหนี้ที่มีศักยภาพไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ตามปกติใช่หรือไม่
- ไม่ใช่ ลูกหนี้ที่มีศักยภาพยังคงสามารถชำระได้ตามปกติ มาตรการในครั้งนี้มุ่งบรรเทาผลกระทบ
ให้กับผู้ที่จ่ายไม่ได้เป็นสำคัญ
7. ทำอย่างไรเพื่อที่จะทำให้ได้รับสิทธิการลดดอกเบี้ยให้ 2 % ? ต้องจ่ายชำระค่างวดเท่าไรถึงจะได้รับสิทธินี้?
- ลูกหนี้ของโครงการที่มีการผ่อนชำระเข้ามาต่อเนื่องในช่วง เม.ย-ก.ย. 2563 จะได้รับการปรับลดดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องโทรมาเพื่อขอรับสิทธิ
- ทุกท่านที่มีการจ่ายชำระค่างวดเข้ามาจะได้รับสิทธิลดดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ดี โครงการแนะนำว่าให้จ่ายชำระเข้ามาครึ่งหนึ่งถ้าทำได้
8. ปัจจุบันยังไม่ได้เข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ แต่สนใจและจะสมัครช่วง เม.ย.-ก.ย. 63 จะสามารถได้รับสิทธิตามมาตรการที่ประกาศหรือไม่
- ผู้สนใจจะได้รับสิทธิตามมาตรการถ้าสมัครในระยะ 6 เดือนที่กำหนด
- อยากจะแนะนำให้รีบสมัคร จะได้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลงค่อนข้างมาก และอัตราดอกเบี้ยที่โครงการคิดถือว่าผ่อนปรนมากเมื่อเทียบกับอัตราปกติในตลาด และยังสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 10 ปี
9. ผู้ที่เคยเป็นลูกหนี้ในโครงการ แต่ด้วยเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถจ่ายและต้องออกจากโครงการไปจะสามารถรับสิทธิตามโครงการได้หรือไม่
- ปัจจุบันมีการผ่อนปรนให้ลูกหนี้ที่ออกจากโครงการไปในช่วงปี 2560-61 ให้สามารถกลับเข้าโครงการได้ โดยจะได้ข้อเสนอเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม
- และถ้ากลับเข้าโครงการในช่วงนี้ก็จะได้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการล่าสุดด้วย
10. ปัจจุบันที่มีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) คลินิกแก้หนี้ยังเปิดทำการหรือไม่และถ้าต้องการติดต่อทางคลินิกแก้หนี้ควรทำอย่างไร
คลินิกแก้หนี้ยังเปิดดำเนินการตามปกติ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 – 17.00 น. เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลง
แต่อย่างไรก็ดี เพื่อช่วยชาติ ลดโอกาสการติดเชื้อ แนะนำให้ติดต่อโครงการผ่านช่องทางอื่นๆ ดังนี้
- Line @debtclinicbysam มีข้อสงสัยคำถามใดๆ ทางโครงการจะติดต่อกลับ หรือ
- Website : www.คลินิกแก้หนี้.com www.debtclinicbysam.com ท่านสามารถสมัครเข้าโครงการผ่านช่องทางนี้ได้
- Call Center โทร 0-2610-2266