ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

วัคซีนที่จำเป็นในเด็ก

วัคซีนที่จำเป็นในเด็ก

“ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” 
ทุกคนก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้นกับตัวเราและคนที่เรารักก็คือลูกของเรา
 
            การป้องกันไม่ให้ป่วย ไม่ให้เป็นโรคที่สำคัญ อันดับแรก คือการลดพฤติกรรม “ความเสี่ยง”  ยกตัวอย่างเช่น ป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นวัณโรค ซึ่งติดต่อได้จากการไอของผู้ป่วยวัณโรค แล้วเราหายใจเอาเชื้อโรคเข้าสู่ปอด เราก็ต้องไม่ไปอยู่ในบริเวณที่ผู้ป่วยวัณโรคไอมาถึงเราได้
 
 
            หลักการข้างต้นนั้น ดูเหมือนง่าย แต่ทำจริงๆ ยาก เพราะไม่เพียงการไม่รู้ว่าใครเป็นวัณโรคบ้าง เพราะเราไม่ใช่หมอ ผู้ป่วยวัณโรคก็ไม่ประกาศตัวเองว่าเป็นวัณโรค เร็วๆนี้ก็มีข่าวชาวสหรัฐอเมริกา ป่วยเป็นวัณโรคดื้อยาอย่างมาก เดินทางขึ้นเครื่องบินไปยุโรป หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งปรารถนาดีต่อผู้ป่วย และไม่อยากให้เชื้อแพร่กระจาย จนก่อปัญหามากมาย ต้องมีการเรียกผู้โดยสารในเที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วยที่เสี่ยงได้รับเชื้อมาตรวจกันหลายร้อยคน 
 
 
             การป้องกันที่ง่ายกว่า การปรับพฤติกรรมเสี่ยงก็คือ การมารับวัคซีนตามกำหนด บางโรคก็ครั้งเดียว บางโรคก็ 2-4 ครั้ง
 
            โรคที่ใช้วัคซีนป้องกันมีมากมาย ความจำเป็นในการใช้วัคซีนป้องกัน ในมุมมองของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่หลักการใหญ่ๆ ก็คือ 1.โรคที่เสี่ยง หรือมีโอกาสเป็นมาก 2.โรคที่รุนแรง เป็นแล้วพิการ หรือเสียชีวิต 3.ค่าใช้จ่ายในการมารับวัคซีน รวมถึงความสะดวก ข้อแทรกซ้อนจากวัคซีน
 
 
ยกตัวอย่าง เช่น วัณโรค ในประเทศไทย เรียกว่าเป็นแหล่งเชื้อ ที่มีจำนวนผู้ป่วยที่แพร่เชื้อโรคมากมาย  ซึ่งต่างจากในสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ป่วยไม่มาก ถ้าเป็นวัณโรคแล้วรักษาได้ทัน  โอกาสพิการ หรือเสียชีวิตก็มี แต่ไม่มาก  ค่าใช้จ่ายวัคซีนก็ไม่สูง
 
 
            เปรียบเทียบกับโรคพิษสุนัขบ้า ถ้าลูกของเราไม่อยู่ใกล้สุนัข แมว กระรอก ก็คือไม่เลี้ยงสัตว์หรือเข้าใกล้สัตว์เหล่านี้ ที่ป่วยแล้วแพร่เชื้อสู่เราได้โดยการกัด เราก็ไม่เสี่ยงเลย  แต่ถ้าถูกกัดแล้วป่วยเสียชีวิต แน่ๆ  ค่าใช้จ่ายวัคซีนก็ราคาสูง ฉีดกันหลายเข็ม คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องพิจารณาว่าวัคซีนป้องกันวัณโรค หรือป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า  วัคซีนไหนจำเป็นกับลูกของเราหรือจำเป็นทั้งคู่
 
            ดังนั้นโรคต่างๆ ที่มีวัคซีนป้องกัน คุณพ่อ คุณแม่ สอบถามข้อมูลความเสี่ยงต่อการป่วย  ความรุนแรง หรือผลเมื่อป่วยแล้ว รวมทั้งราคาวัคซีนที่ได้จากแพทย์ และตัดสินใจเองว่าลูกควรจะได้รับวัคซีนใด
 
 
            ในด้านค่าใช้จ่าย มุมมองของกระทรวงสาธารณสุข ค่าวัคซีนให้คนแข็งแรงหลายๆ คน ถูกกว่าค่ารักษาผู้ที่ป่วยไม่กี่คน อีกทั้งลดแหล่งหรือจำนวนคนที่ป่วยแล้วแพร่กระจายโรคได้ ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะออกค่าวัคซีนให้ เพียงแต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกหลานมารับวัคซีนตามกำหนดเท่านั้น
วัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขออกค่าใช้จ่ายให้
  1. วัณโรค ฉีดบีซีจี 1ครั้งตอนอายุแรกเกิด
  2. ตับอักเสบ-บี ฉีด3 ครั้ง ตอนอายุ แรกเกิด 2 เดือน และ 6 เดือน
  3. ไอกรน-คอตีบ-บาดทะยัก ฉีด 5 ครั้งตอนอายุ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือน 18 เดือนและ4-6 ปี
  4. โปลิโอ หยอดรับประทาน 5 ครั้ง ตอนอายุ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือน 18เดือน และ 4-6 ปี
  5. หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม  ฉีด 2 ครั้ง ตอนอายุ 9 เดือนและ 6ปี
  6. ไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น    ฉีด 3ครั้ง ตอนอายุ 18 เดือน 19 เดือน และ 30 เดือน
 
วัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ออกค่าใช้จ่ายให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ถ้าตัดสินใจว่าจำเป็นต่อลูก
  1. เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฮิบ
    ฉีด 2-3ครั้ง แล้วแต่ใช้ยี่ห้ออะไร เมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือนและ6 เดือน ถ้าอายุเกิน 4 ปีแล้ว ไม่เสี่ยงต่อโรคนี้
     
  2. ตับอักเสบ-เอ
    ฉีด2 ครั้ง เมื่ออายุ 1 ปีไปแล้ว และอีก 6-12 เดือนจากนั้น
     
  3. อีสุกอีใส                                 
    ฉีด 1-2 ครั้ง เมื่ออายุ 1 ปีไปแล้ว แต่ถ้าเกิน 13 ปี ควรฉีดอีกเข็ม หลังเข็มแรก 4-8 สัปดาห์
     
  4. พิษสุนัขบ้า
    ฉีด 3 ครั้ง หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับความต้องการให้ป้องกันได้ทันทีหรือเร็วแค่ไหน กรุณาถามแพทย์หากมีประวัติสุนัขกัด
     
  5. ไข้หวัดใหญ่ 
     ฉีด1 ครั้งทุกปี เด็กอายุ 6 เดือนถึง 9 ปี ครั้งแรกฉีด 2 เข็มห่างกัน    4 สัปดาห์หลังจากนั้นฉีด1 ครั้ง ทุกปี
     
  6. นิวโมคอคคัส 23 ชนิด 
    ฉีด 2ครั้ง เมื่ออายุมากกว่า 2 ปี และซ้ำอีกตอนอายุ 5 ปี
     
  7. นิวโมคอคคัส 7 ชนิด
    ฉีด 3-4ครั้ง เมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือนและ 12-15 เดือน ถ้าไม่ตรงตามอายุ กรุณาปรึกษาแพทย์เพื่อปรับจำนวนครั้งที่ฉีด
     
  8. ท้องร่วงโรต้าหยอดรับประทาน 2-3 ครั้ง แล้วแต่ยี่ห้อ เมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน (และ 6เดือน)
 
ความเสี่ยงต่อโรคความรุนแรงเมื่อป่วยเป็นโรค และค่าใช้จ่าย กรุณาสอบถามข้อมูลจาก
 
แพทย์หรือค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ข้อมูลเหล่านี้เปลี่ยนแปลงตามเวลาที่ผ่านไปตามความเสี่ยงต่อโรคที่เคยสูง แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ฉีดวัคซีน ไม่ค่อยมีใครป่วยไม่ค่อยมีใครแพร่เชื้อ ความเสี่ยงก็ลดลงได้
 
ดังนั้นการที่ลูกเราได้รับวัคซีนทำให้ลูกเราไม่ป่วยแล้วยังเป็นการสร้างบุญกุศลให้คนอื่นที่ไม่มีโอกาสได้วัคซีนเสี่ยงต่อโรคน้อยลง อย่าลืมมาทำบุญโดยการฉีดวัคซีนตามกำหนดให้ลูกของเรากันเถอะครับ



วัคซีนที่จำเป็นในเด็ก (ตอนที่ 1)
รศ.นพ.นิรันดร์ วรรณประภา
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด