ตัวเลขการติดเชื้อโควิดในกลุ่มเด็กเยาวชนในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นมาก
26 สิงหาคม รายงานการติดเชื้อโควิดในสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อมากที่สุด เมื่อเทียบในจำนวน 100,000 ราย
ตามรายงานของ CDC
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา กลุ่มอายุ 18-29 ปี เป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อมากที่สุด แต่จากรายงานเมื่อวันเสาร์ กลับพบว่า กลุ่มเยาวชน อายุ 16-17 ปี เป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อมากที่สุดแทน ในอัตรา 160.3 ต่อ 100,000 ราย และมีแนวโน้นจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่กลุ่มอายุ 12-15 ปี อยู่ที่อัตรา 152.7 ราย อายุ 5-11 ปี อยู่ที่ 137 และกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี อยู่ที่ 79.4 ราย (ต่อ 100,000 ราย)
สำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ มีตัวเลขดังนี้
กลุ่มอายุ 18-29 ปี อัตรา 151.9 ราย
อายุ 30-39 ปี อัตรา 152.9 ราย
อายุ 40-49 ปี อัตรา 129.6 ราย
อายุ 50-64 ปี อยู่ที่ 95.6 ราย
และกลุ่มอายุ 65-74 ปีและ อายุ 75 ปีขึ้น อยู่ที่ 71.2 และ 63.5 ตามลำดับ
เฉพาะกลุ่มอายุ 16-17 ปี จะเห็นตัวเลขจากเพียง 48/100,00 เคส ในวันที่ 10 ก.ค. พุ่งขึ้นมาที่ระดับ 200/100,000 เคส ในวันที 14 ส.ค. ก่อนจะลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมจำนวนผู้ติดเชื่อในกลุ่มนี้ ราวๆ 800,000 ราย คิดเป็น 2.6% จากทั่วประเทศ
กลุ่มอายุ 18-29 ปี เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุดราว 6.7 ล้านคน คิดเป็น 22.7% ของทั้งหมด (กลุ่มนี้เป็น 16.4% ของประชากรสหรัฐทั้งหมด)
กลุ่มเยาวชน 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว 8 ล้านราย (32%) ประมาณว่ามีเพียงแค่ครึ่งเดียวของกลุ่ม 16-17 ปี ที่ได้รับวัคซีน 1 เข็ม นั่นหมายถึงมีอีกมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
สาเหตุที่ทำให้การแพร่กระจายในกลุ่ม 16-17 ปี นอกเหนือจากกลไกการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเองแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ก็น่าจะมากจากด้านพฤติกรรมนอกโรงเรียนของเด็กๆ ด้วย ทั้งการรวมกลุ่มกับเพื่อน การขับรถไปเรียน กิจกรรมหลังเลิกเรียน ที่เด็กอาจย่อหย่อน-ละเลยการป้องกันตัว เมื่อเทียบกับเวลาอยู่ในโรงเรียน