ประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นถึง 22,000 รายต่อวัน
จำนวนผู้ที่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลมีมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้มีผู้ป่วยไอซียู 528 ราย
มาตรการที่จะลดจำนวนผู้ป่วยลงได้ คือต้องจำกัดระยะห่าง งดการติดต่อกันของผู้คนลงเท่านั้น
สถานการณ์เปลี่ยน นายกต้องยอมเปลี่ยน
การออกประกาศชัตดาวน์ปิดเมืองครั้งนี้ เป็นการกลับลำของรัฐบาลจากที่เคยประกาศไว้เมื่อปีก่อนว่ารัฐบาลสามารถจัดการกับการระบาดครั้งนี้ได้ตั้งแต่หน้าร้อนที่ผ่านมา แต่แล้วสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปมากมายจนถึงวันนี้ นายกรัฐมนตรียอมรับว่า "การประเมินสถานการณ์ล่าสุด มีความผิดพลาด" และยอมรับคำตำหนิว่าไม่สามารถจะโน้มน้าวให้ประชาชนดำเนินตามกฏเกณฑ์ที่วางไว้ได้ "ประชาชนไม่ถึง 50% ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อเมื่อมีอาการ เป็นความรับผิดชอบของผมเอง เราควรทำได้ดีกว่านี้"
การชัตดาวน์ครั้งนี้ ความหมายคือ ทุกกิจกรรมในเนเธอร์แลนด์ "ต้องปิดหมด" ตั้งแต่ คอนเสิร์ต โรงหนัง คาเฟ่ บาร์ พิพิธภัณฑ์ โรงยิม สปอร์ตคลับ มียกเว้นบางประเภท เช่น ร้านยาเปิดได้ถึง 2 ทุ่ม ร้านอาหารและของกินเปิดขายแบบซื้อกลับได้เท่านั้น
รัฐบาลยังนำมาตรการระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัยกลับมาบังคับใช้อีกครั้ง รวมทั้งคำสั่งให้ลดปริมาณการให้บริการลงเหลือเพียงหนึ่งในสาม ร้านค้าต่างๆ ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการลง โดยคำนวนจากพื้นที่ 5 ตารางเมตรต่อคน ขอให้ประชาชนงดการเดินทาง ทำงานที่บ้านแทนให้ได้มากที่สุด และยังร้องขอให้ทุกคนตรวจหาเชื้อก่อนออกจากบ้าน
โรงเรียนยังได้รับอนุญาตให้เปิดต่อได้ แต่นักเรียนตั้งแต่ระดับ 6 ขึ้นไปต้องใส่หน้ากากอนามัยระหว่างเดินทางไปกลับ
นายกฯ ยังขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องเพื่อนบ้านด้วยกันด้วย เนื่องจากเกรงว่าการล็อคดาวน์อาจก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงในบ้าน โดยเฉพาะกับเด็กๆ ได้ รวมถึงคนที่อยู่คนเดียวลำพัง
"เราต้องช่วยดูแลกันและกัน" คำขอของนายกฯ ดัตช์
ระดมฉีดเข็มกระตุ้นบูสเตอร์
นายฮูโก้ เดอ ยอง รัฐมนตรีสาธารณสุข กล่าวว่า เขาหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล เพื่อช่วยระดมฉีดวัคซีนบูสเตอร์ให้กับประชาชนให้ได้มากและเร็วที่สุด เจ้าหน้าที่ทหารกว่า 750 นายก็ได้รับมอบหมายให้มาช่วยในภาระกิจนี้แล้วเช่นกัน เขาระบุว่า ภายในสัปดาห์หน้าแผนการฉีดจะชัดเจนและเริ่มดำเนินการได้ เริ่มจากการฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 80 ปี เป็นกลุ่มแรก