วัคซีน mRNA ที่โลกรู้จักดี 2 ชนิด คือ โมเดอร์นาและไฟเซอร์ ถูกใช้เป็นอาวุธหลักในการป้องกัน การแพร่ระบาดของโควิดโดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าที่ร้ายกาจในช่วงเวลาที่ผ่านมา จนสถานการณ์การระบาดลดลง ผู้ป่วยและเสียชีวิตลดจำนวนลงเมื่อการกระจายฉีดวัคซีนเป็นไปในวงกว้างและทั่วถึง ในด้านคุณภาพและประสิทธิ ไม่มีใครปฎิเสธถึงความยอดเยี่ยมของมันและเทคโนโลยี mRNA อีกต่อไป และยังเป็นความหวังต่อการนำไปใช้ในการรักษาโรคร้ายแรงอื่นๆในอนาคต
กล่าวสำหรับไวรัสกลายพันธุ์ตัวล่าสุด "โอมิครอน" ที่เริ่มพบมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก และอีกนานาประเทศได้ออกมาตรการสกัดกัันการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้แล้ว หลังจากที่ WHO ให้ข้อมูลว่า ไวรัสออมิครอน ที่มีการกลายพันธุ์ไปจากเดิมมากถึง 30 จุด มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้สูงและเร็ว ขณะที่ยังไม่มีความแน่ชัดเรื่องของความรุนแรงของโรคที่จะเกิดขึ้น นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังเร่งศึกษาและหาคำตอบนี้อยู่
วัคซีน mRNA โมเดอร์นาและไฟเซอร์ จะมีบทบาทอย่างไร กับไวรัส "โอมิครอน" ไปตามดูความเห็นจากบทสัมภาษณ์ของ 2 ซีอีโอ ของทั้งสองบริษัท
โมเดอร์นา กังวลกับ "โอมิครอน"
ซีอีโอโมเดอร์นา นายสเตฟาน บงเซล เปิดเผยกับ
CNBC ว่า วัคซีนที่มีอาจเอา "โอมิครอน" ไม่อยู่ อาจต้องใช้เวลานับเดือนกว่าจะพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ให้ใช้สู้กับโอมิครอนได้
เขาเคยให้ข้อมูลกับไฟแนนเชี่ยลไทมส์ว่า "ผมคุยกับนักวิทยาศาสตร์หลายท่าน ทุกคนมองเหมือนกันว่ามันอาจจะไม่ค่อยดีนัก" จากข้อมูลที่เชื่อได้ว่า ไวรัสตัวนี้แพร่กระจายได้เร็ว แต่กว่าจะมีข้อสรุปเรื่องนี้คงต้องรออีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และเมื่อถึงเวลานั้น จะได้เห็นกันว่าการกลายพันธุ์จะมีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ตอนนี้หรือไม่
"ขึ้นกับว่าจะมีลดลงแค่ไหน อาจต้องตัดสินใจว่าจะมีเข็ม 4 หรือไม่ เพื่อเพิ่มภูมิให้มากขึ้นกับคนที่มีภูมิต่ำ หรือเสี่ยง เช่นคนสูงอายุ"
เขากล่าวถึงการพบผู้ติดเชื้อในเนเธอร์แลนด์ 13 ราย ที่เดินทางไปจากแอฟริกาใต้ น่าจะมีหลายประเทศเป็นแบบเดียวกัน "ผมเชื่อว่าประเทศส่วนใหญ่ที่มีเที่ยวบินตรงไปจากแอฟริกาใต้ ในช่วง 10 วันที่ผ่าน จะพบผู้ติดเชื้อในประเทศ"
แต่ซีอีโอ บงเซล เห็นว่า รายงานเกี่ยวอาการผู้ป่วยจากแอฟริกา อาจไม่ใช่การคาดคะเนต่อความรุนแรงของโรคที่ดีเท่าใดนัก เพราะว่าในพื้นที่นั้น มีประชากรที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไปเพียง 5% และเป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัวในระดับที่ต่ำกว่าในสหรัฐหรือยุโรปมาก
"เป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ที่จะรู้อะไรอย่างแน่ชัด ผมไม่คิดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ข้างหน้าในแอฟริกาใต้ จะทำนายถึงความรุนแรงของไวรัส"
โมเดอร์นาเข้าสู่กระบวนการสร้างวัคซีน "เฉพาะออมิครอน" แล้ว
ไฟเซอร์ พร้อมพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ ภายใน 100 วัน
ด้านไฟเซอร์ นายอัลเบิร์ต บูร์ลาซีอีโอ กล่าวกับ
CNBC ว่าได้เตรียการเดินหน้ากระบวนการสร้างวัคซีนมุ่งเป้าเฉพาะ "ออมิครอน" แล้ว หากพบว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพพอ
"ผมคิดว่าวัคซีนยังทำหน้าที่ป้องกันได้อยู่ สิ่งที่จะได้เห็นต่อไป ซึ่งเรายังไม่รู้ แต่มีความสำคัญมากคือ วัคซีนปกป้องได้น้อยลงหรือไม่"
ไฟเซอร์ได้เตรียมพร้อมที่จะเริ่มผลิตวัคซีนใหม่เมื่อจำเป็น เริ่มวางกรอบโครงสร้าง DNA สำหรับการพัฒนาวัคซีนแล้ว
"เราเชื่อว่าสามารถสร้างวัคซีนตัวใหม่ได้ภายใน 100 วัน" พิสูจน์ได้จากเมื่อคราวที่เดลต้าระบาด ไฟเซอร์ใช้เวลา 95 วัน พัฒนาวัคซีน หลังจากพบว่าวัคซีนสูตรก่อนหน้าไม่สามารถป้องกันเดลต้าได้ ผลที่ออกมาก็พิสูจน์ว่าสูตรใหม่สามารถจัดการกับเดลต้าได้เป็นอย่างดี สำหรับออมิครอน เขาค่อนข้างเชื่อมั่นว่า ยารักษาโควิดชนิดกินที่เพิ่งเปิดเผยข้อมูลไปไม่นานนี้ (
แพกซ์โลวิด) สามารถจะรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากการกลายพันธุ์ได้ รวมทั้งจาก ออมิครอนด้วย
ยาตัวนี้ จะให้กับผู้ป่วยที่เพิ่งติดเชื้อไม่เกิน 3 วันในระยะก่อโรค จะช่วยลดความรุนแรงของอาการป่วย ไม่ให้ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลหรือลดการเสียชีวิตได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์