5 ธันวาคม 2564 Reuters - สหรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มใน 6 รัฐ - นิวเจอร์ซี่ แมรี่แลนด์ มิซซูรี่ เนบราสก้า เพนซิลเวเนีย ยูทาห์
ในรัฐมิซซูรี่ กำลังรอการยืนยันผลตรวจจาก CDC ที่พบในผู้ที่อาศัยในเซนต์หลุย์ที่เดินทางภายในประเทศ ส่วนในรัฐยูทาห์ พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย รัฐเนบราสก้า พบ 6 ราย ในจำนวนนี้ 5 รายไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่ทุกรายไม่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารพ. รัฐแมรี่แลนด์ ยืนยันพบ 3 ราย ทุกรายไม่มีอาการรุนแรง ในรัฐเพนซิลเวเนีย พบผู้ติดเชื้อเป็นชายวัย 30 ปี 1 ราย รัฐนิวเจอร์ซี่ พบ 1 รายเป็นสตรีที่ฉีดวัคซีนแล้ว มีประวัติเคยเดินทางไปรัฐจอร์เจียเมื่อไม่นานนี้
สหรัฐรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายแรก ในแคลิฟอร์เนียเมื่อวันพุธ และถัดมามีรายงานพบเพิ่มในมินนิโซตา โคโลราโด นิวยอร์ค และ ฮาวาย
ผอ.CDC ยังคงย้ำว่า แม้จะพบโอมิครอนในสหรัฐแล้วก็ตาม แต่เดลต้าคือความกังวลอันดับแรก เพราะผู้ติดเชื้อ 99.99% เป็นเดลต้า คำแนะนำคือมาตรการป้องกันยังต้องคงเดิมไม่ว่าจะเชื้อสายพันธุ์ไหน ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือ อยู่ในที่เปิดโล่งอากาศถ่ายเท
อดีตจนท.FDA ชื่อดัง นพ.สก๊อตต์ ก็อตต์ลีบ ที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของไฟเซอร์ ให้ข้อสังเกตว่า รัฐที่มีจำนวนคนฉีดวัคซีนในอัตราที่สูง ดูจะป้องกันโอมิครอนได้ดีกว่า และดูเหมือนว่าภูมิของคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนที่ฟื้นจากการติดเชื้อเดลต้ามาแล้ว จะไม่สามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่นี้ได้
"ความเสี่ยงที่รออยู่ในอนาคตก็คือ รัฐที่หวังว่าการติดเชื้อเดลต้าประชน ไปจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นนั้น อาจจะไม่ได้ผลกับไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่"
ปัจจุบันพบโอมิครอนใน 40 ประเทศทั่วโลกแล้ว