ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นได้ หากร่วมมือกัน

โควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นได้ หากร่วมมือกัน Thumb HealthServ.net
โควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นได้ หากร่วมมือกัน ThumbMobile HealthServ.net

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจง โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นได้ เมื่อความรุนแรงของโรคลดลง ประชาชนมีภูมิต้านทานจำนวนมาก และระบบบริหารจัดการดูแลมีประสิทธิภาพ ขอความร่วมมือฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเข็มกระตุ้น ป้องกันตนเองเคร่งครัด สถานประกอบการเข้ม COVID Free Setting ตรวจ ATK เป็นประจำ หากติดเชื้อเข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน มีทีมบุคลากรสาธารณสุขติดตามอาการต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวล

 
 
          
          วันนี้ (12 มกราคม 2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยเริ่มทรงตัว หลังจากมีการติดเชื้อสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้ภายในปี 2565 นี้ โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัย คือ 1.ตัวเชื้อโรคมีความรุนแรงลดลงซึ่งสอดคล้องกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในขณะนี้ ที่เชื้อมีความรุนแรงลดลง เห็นได้จากแม้จะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่จำนวนผู้ป่วยอาการหนัก ใส่เครื่องช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตมีทิศทางลดลง 2.ประชาชนมีภูมิคุ้มกันต่อโรคมากขึ้น และ 3.ระบบบริหารจัดการ การดูแลรักษา ที่มีประสิทธิภาพ และควบคุมการระบาดได้ดี ทั้งนี้ การที่โรคโควิด 19 จะเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามชะลอการระบาดของโรค พร้อมไปกับการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและผู้ที่ถึงกำหนดรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ติดต่อขอรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด และขอให้ยังคงเคร่งครัดมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ใส่หน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง ตรวจคัดกรองด้วย ATK เมื่อมีความเสี่ยง ส่วนสถานประกอบการต้องเข้มการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting
 
          “ที่สำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่า เมื่อครั้งนี้โรคโควิด 19 เปลี่ยนไปจากเดิม มีความรุนแรงลดลง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมาก รูปแบบการดูแลรักษาจึงต่างจากการระบาดระลอกก่อน โดยเปลี่ยนมาใช้การดูแลที่บ้าน (Home Isolation) หรือในชุมชน (Community Isolation) เป็นลำดับแรก มียา เวชภัณฑ์ มีทีมบุคลากรสาธารณสุขติดตามอาการต่อเนื่อง และมีการเตรียมเตียงในโรงพยาบาลไว้รองรับหากอาการมากขึ้นพร้อมส่งต่อทันที จึงวางใจได้ว่าหากติดเชื้อก็ยังได้รับการดูแลตามมาตรฐานเช่นเดิม” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
 
          นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า สำหรับการระบาดของโรคติดต่อ มี 4 ระดับ ได้แก่
1. โรคประจำถิ่น (Endemic) คือ โรคที่เกิดขึ้นประจำในพื้นที่ อาจเป็นเมือง ประเทศ กลุ่มประเทศ หรือทวีป มีอัตราป่วยคงที่และคาดการณ์ได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออกในประเทศไทย
2.การระบาด (Outbreak) คือ เหตุการณ์ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นผิดปกติ ทั้งกรณีโรคประจำถิ่นที่มีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าที่คาดการณ์ หรือกรณีที่เกิดโรคอุบัติใหม่
3.โรคระบาด (Epidemic) คือ มีการแพร่กระจายโรคกว้างขึ้นในเชิงภูมิศาสตร์อย่างฉับพลัน จำนวนผู้ติดเชื้อเกินกว่าที่คาดการณ์ได้ และ
4.การระบาดใหญ่ (Pandemic) คือ ระดับการระบาดที่แพร่ไปทั่วโลก เช่น การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และล่าสุดคือการระบาดของโรคโควิด 19

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด