วันที่ 23 ม.ค.64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อรองกับกับมาตรการของรัฐบาลที่จะออกมาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวนั้น ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเร่งดำเนินโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) ซึ่งเป็นโครงการที่กระตุ้นให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับปรุงสถานประกอบการให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ หรือ New Normal ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวควบคู่กับมาตรฐานด้านสุขภาพอนามัย
สำหรับการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ดำเนินการใน 2 แนวทาง คือ การตรวจโดยคณะกรรมการตรวจประเมิน และการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า เมื่อผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมโครงการผ่านการตรวจสอบจะได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ในสถานประกอบการ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ททท. ได้รายงานให้คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติทราบว่า ตั้งแต่ เริ่มเปิดตัวโครงการเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2563 เป็นต้นมา มีสถานประกอบการในภาคการท่องเที่ยวสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 9,894 แห่ง ผ่านการประเมินและได้รับตราสัญลักษณ์ SHA แล้ว 7,950 แห่ง หรือคิดเป็น 80.35%
กลุ่มกิจการที่สมัครร่วมโครงการและผ่านการประเมินมากที่สุด ได้แก่
- โรงแรมและที่พักสถานที่จัดการประชุม ร่วมโครงการ 3,747 แห่ง ผ่านการประเมิน 2,991แห่ง คิดเป็น 79.82%
- ภัตตาคาร/ร้านอาหาร เข้าร่วมโครงการ 2,688 แห่ง ผ่านการประเมิน 2,128 แห่ง คิดเป็น 78.86%
- บริษัทนำเที่ยว ร่วมโครงการ 1,103 แห่ง ผ่านการประเมิน 868 แห่ง คิดเป็น 78.69%
สำหรับปี 2564 ททท. และกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายว่า จะเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA ให้ได้มากที่สุด มีการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ในด้านของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจะมีการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานที่ทางการดำเนินการอยู่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งในสินค้าและบริการท่องเที่ยวของไทย
“SHA เป็นมาตรฐานที่เหมือนสัญลักษณ์แสดงว่าผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยวได้ปรับปรุงทั้งสินค้าและบริการโดยมีมาตรฐานด้านสาธารณสุขเป็นหัวใจหลัก ซึ่งจะเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว เป็นกลไกสำคัญสำหรับการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในระยะต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
23 มกราคม 2564
Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) เป็นโครงการความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย
สภา สมาพันธ์ และสมาคมต่างๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นผู้ดำเนินการตรวจประเมิน Checklist พร้อมรับรองผลการปรับปรุงสถานประกอบการตามมาตรฐาน SHA โดยแบ่งเป็น 10 ประเภทกิจกรรม ได้แก่ ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร ประเภทโรงแรม/ที่พัก และสถานที่จัดประชุม ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว ประเภทยานพาหนะ ประเภทบริษัทนำเที่ยว ประเภทสุขภาพและความงาม ประเภทห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ประเภทกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทโรงละคร โรงมหรสพและการจัดกิจกรรม และประเภทร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ
ททท. เป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์ โดยมีการระบุหมายเลขของตราสัญลักษณ์ SHA ให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ทั้งนี้ ททท. สามารถเพิกถอนตราสัญลักษณ์SHA ได้ในกรณีผู้ประกอบการไม่สามารถรักษามาตรฐานให้เป็นไปตามมาตรฐาน SHA
SHA เป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยว ดังนั้นการตรวจสอบสถานประกอบการหรือกิจการที่ได้รับการอนุญาตให้เปิดบริการแล้ว การตรวจสอบ (Post Audit) จึงให้นักท่องเที่ยวหรือผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการให้ข้อเสนอแนะ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาต่อไปผ่านระบบออนไลน์ที่ ททท. จัดทำขึ้น และสุ่มตรวจสถานประกอบการโดยคณะกรรมการตรวจประเมิน