18 ตุลาคม 2565 ที่โรงแรมอัศวิน กทม. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับฟังผลสรุปการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2566 และกล่าวว่า ในการจัดทำแผนขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุขปีงบประมาณ 2566 ได้ย้ำให้น้อมนำพระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ว่า “ให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” มาใช้เป็นปณิธานการทำงาน พัฒนาการบริหารจัดการและการดูแลสุขภาพของประชาชนควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรที่มีอยู่ให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคมโดยรอบคอบรัดกุม เตรียมพร้อมรับมือกับโรคและภัยสุขภาพให้เท่าทันสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง และวางแผนขับเคลื่อนให้มีความกระชับ ชัดเจน และสอดรับกับนโยบายมุ่งเน้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง” ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และยึดหลักการปฏิบัติ “ททท” คือ ทำทันที ทำต่อเนื่อง ทำและพัฒนา
ทั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขไปสู่การปฏิบัติเป็นไปมีประสิทธิภาพ ได้ออกคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 1264/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข มีตนเป็นประธานรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 4 ท่าน อธิบดีทุกกรม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ร่วมเป็นคณะกรรมการ ทำหน้าที่กำหนดกลไก ทิศทาง กรอบแนวทางและสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย และกำกับ เร่งรัด ติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายมี 6 คณะ คือ
1) ด้านองค์กร บุคลากร และการสื่อสารองค์กร มี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ทำหน้าที่ขับเคลื่อนกระทรวงสาธารณสุขสู่องค์กรสมรรถนะสูงตามแนวทาง 4T (Trust, Teamwork&Talent, Technology, Target) ทำให้บุคลากรมีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีขึ้น มีสมดุลชีวิตกับการทำงาน ปรับตัวยืดหยุ่นได้ในภาวะวิกฤต ทำงานเป็นทีมโดยมีเป้าหมายและค่านิยมร่วมกัน เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
2) ด้านการนำสุขภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มี นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เน้นส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ สมุนไพรและภูมิปัญญาไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก ขยายสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของภูมิภาคและประชาคมโลก ต่อยอดทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ของประชาชนและประเทศ
3) ด้านข้อมูลและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข มี นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เน้นการพัฒนาข้อมูลดิจิทัลสุขภาพของประชาชน เชื่อมโยงเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ พัฒนาระบบและกลไกสนับสนุนการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการบริหารและการพัฒนาระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4) ด้านสุขภาพผู้สูงอายุให้ได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง มี นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน จะส่งเสริมให้สูงวัยอย่างแข็งแรงโดยครอบครัวและชุมชน ได้รับการคัดกรองสุขภาพ ประเมินความเสี่ยงของโรค ป้องกันปัญหาสุขภาพ การดูแลระยะยาว สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และมีคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาลทุกระดับ เพื่อเป็นช่องทางเข้าถึงบริการได้สะดวกมากขึ้น
5) ด้านการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อคนไทยแข็งแรง มี นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน จะเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับประชาชนเพื่อยกระดับการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในทุกมิติเพิ่มศักยภาพ อสม. ชุมชนเข้มแข็งรวมพลังสร้างสุขภาพดี พัฒนาศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัยให้สามารถดูแลสุขภาพกาย-ใจของตนเอง ครอบครัวและชุมชนให้แข็งแรง
6) ด้านบริการเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น และลดอัตราตายโรคที่สำคัญ มี นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน โดยพัฒนาโรงพยาบาลของประชาชน บริการด้วยการแพทย์ทางไกล บริหารการเงินการคลัง เพื่อปรับโฉมโรงพยาบาล มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลทุกระดับ พัฒนาเครือข่ายบริการสุขภาพไร้รอยต่อ ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ โดยเฉพาะโรคสำคัญ พัฒนานวัตกรรมการแพทย์ขั้นสูงเพื่อการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ ดูแลรักษาและป้องกันการเกิดโรคตามลักษณะเฉพาะทางพันธุกรรม และเตรียมพร้อมรับภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศในอนาคต