ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ผลวิจัยบริโภคโซเดียมใน 4 จังหวัด ค่าเฉลี่ยสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด

ผลวิจัยบริโภคโซเดียมใน 4 จังหวัด ค่าเฉลี่ยสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด Thumb HealthServ.net
ผลวิจัยบริโภคโซเดียมใน 4 จังหวัด ค่าเฉลี่ยสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ThumbMobile HealthServ.net

กระทรวงสาธารณสุข เผยผลวิจัยการบริโภคโซเดียมของประชากรไทย จากการประเมินปริมาณโซเดียมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ในคนไทยอายุ 20-69 ปี จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และพะเยา พบค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียม/วัน 3,236.8 มิลลิกรัม สูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ 2,000 มิลลิกรัม เดินหน้าผลักดันการลดบริโภคเกลือโซเดียม เพื่อลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง


 
          นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิระดับ 11) ในฐานะประธานคณะกรรมการ MIU (MOPH Intelligence Unit) กล่าวว่า ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Noncommunicable diseases ) เป็นปัญหาสำคัญระดับโลก ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารสร้างผลกระทบทางสุขภาพ โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งกระเพาะอาหารและโรคไตเรื้อรัง นอกจากภาระในการจัดบริการสุขภาพ ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย


          กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายที่มุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มากกว่าการรักษาพยาบาลเมื่อป่วยแล้ว โดยเดินหน้าผลักดันการลดบริโภคเกลือโซเดียมในประชากรลง ร้อยละ 30 ให้สำเร็จภายใน พ.ศ. 2568 ตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก เพื่อลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งมีมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 รับรองนโยบายและขับเคลื่อนมาตรการลดการบริโภคเกลืออย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม
 

 

เปิดผลวิจัยการบริโภคโซเดียมในไทย

 
          ข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับ “ปริมาณการบริโภคโซเดียมของประชากรไทย จากการประเมินปริมาณโซเดียมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง โดยการศึกษาแบบภาคตัดขวาง” เพื่อประมาณการค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันของกลุ่มตัวอย่างอายุ 20-69 ปี ใน 4 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และพะเยา รวม 1,440 ราย เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์ -20 พฤษภาคม 2564


ผลการวิจัยพบว่า
  • จ.พะเยา มีค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียม/วันสูงถึง 4,054.8 มก. อำนาจเจริญ 3,773.9 มก. อุบลราชธานี 3,131.3 มก. ศรีสะเกษ 2,906.5 มก.
  • ค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียม/วันรวม 4 จังหวัด เท่ากับ 3,236.8 มก. ซึ่งสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด คือ 2,000 มก.
  • ส่วนผลตรวจโซเดียมในปัสสาวะกลุ่มตัวอย่าง พบว่า จ.พะเยา มีสัดส่วนการบริโภคโซเดียมมากกว่า 2,000 มก./วัน มากที่สุด รองลงมาคือ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ตามลำดับ
  • ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการบริโภคโซเดียมในปริมาณที่สูง คือ ระดับดัชนีมวลกายมาก อายุน้อย ระดับการศึกษามัธยมมากกว่าประถม และระดับรายได้เกินหมื่นบาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การดำรงชีวิต วัฒนธรรมการบริโภคและอาหารประจำถิ่น อีกด้วย


 

องค์การอนามัยโลกแนะนำ การลดบริโภคเกลือโซเดียม ด้วยหลายมาตรการร่วมกัน ได้แก่
  • ลดปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีปริมาณสูง
  • ให้ความรู้และความตระหนักกับประชาชน
  • จัดการด้านอาหารสุขภาพในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ
  • ใช้ฉลากอาหารแสดงปริมาณโซเดียมเพื่อสร้างการรับรู้และการตัดสินใจเลือกรับประทาน
  • ใช้มาตรการภาษีในกลุ่มอาหารเสี่ยงสูง
  • เฝ้าระวังและติดตามการดำเนินมาตรการต่างๆ ทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน
  • ส่งเสริมการรับประทานผักและผลไม้เพื่อเพิ่มโพแทสเซียม ควบคู่ไปกับการลดการบริโภคโซเดียม เพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจและหลอดเลือด
 
 
          “การศึกษานี้ ได้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในระดับประเทศและพื้นที่ ให้มีการสำรวจปริมาณการบริโภคโซเดียม เพื่อนำมากำหนดกลวิธีและกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมกับพื้นที่ เช่น การสร้างความตระหนักถึงผลกระทบ ส่งเสริมอาหารลดโซเดียมเพื่อสุขภาพ และการจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นองค์กรลดการบริโภคโซเดียมรวมทั้งศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริโภคโซเดียม เพื่อหามาตรการและกลวิธีที่มีประสิทธิภาพเฉพาะปัญหาและพื้นที่นั้นๆ” นพ.รุ่งเรืองกล่าว

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด