ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สุขภาพจิตของกลุ่มแอลจีบีทีคิวพลัส (Mental health of LGBTQ+)

สุขภาพจิตของกลุ่มแอลจีบีทีคิวพลัส (Mental health of LGBTQ+) HealthServ.net
สุขภาพจิตของกลุ่มแอลจีบีทีคิวพลัส (Mental health of LGBTQ+) ThumbMobile HealthServ.net

สุขภาพจิตของกลุ่มแอลจีบีทีคิวพลัส (Mental health of LGBTQ+) โดย พิเชฐ อุดมรัตน์ ฉายภาพความเป็นมาของ pride month ในต่างประเทศและในประเทศไทย ความหมายของชื่อย่อ LGBTQ+ ปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มบุคคลเหล่านี้และข้อเสนอทางแก้ไขปัญหา

เดือนมิถุนายนถือว่าเป็น pride month เกิดจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1969 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าในสโตนวอลล์อินน์ (Stonewall Inn) ที่เป็นบาร์เกย์ในหมู่บ้านกรีนิชมหานครนิวยอร์กทำให้เกิดความตึงเครียดและกลายเป็นเหตุการณ์จลาจลครั้งใหญ่ในที่สุด การจลาจลนี้กลายเป็นตัวเร่งให้เกิดขบวนการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ กระตุ้นให้ผู้คนแสดงตนมากขึ้นที่เรียกว่า come out เพื่อเรียกร้องสิทธิของความเท่าเทียมและในปีต่อมาเดือนมิถุนายนได้เกิดการเดินขบวนเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การจลาจลในครั้งนั้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ[1]

            ในที่สุดกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศจึงได้จัดกิจกรรมในเดือนมิถุนายนของทุกปีเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความภาคภูมิใจและความชอบในตัวตนที่แท้จริง ซึ่งความภูมิใจที่เกิดขึ้นนั้นต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดจากการโดนดูถูก การใช้ความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติของสังคมโดยการแต่งกายการเดินขบวนพาเหรด ได้มีสีสันสดใสหรือเป็นสีรุ้ง เพื่อเป็นการแสดงออกและเฉลิมฉลองถึงความภาคภูมิใจที่ได้รับ เรียกเทศกาลนี้ว่า เทศกาลไพรด์ (pride festival)



 

งานไพรด์ในประเทศไทย


                 สำหรับประเทศไทยเคยมีการจัดงานไพรด์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 ในชื่อ Bangkok gay festival เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจในสังคมและรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์ หลังจากนั้นก็มีการจัดงานเรื่อยมาอีกหลายครั้งแต่ต้องหยุดไป ในปีพ.ศ.2560 จนเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2565 ได้มีการจัดงาน Bangkok Naruemit pride โดยเครือข่ายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศขึ้นมาอีกครั้ง


                 สำหรับในปี พ.ศ. 2566 นี้ งานไพรด์พาเหรดที่กรุงเทพฯถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน และยังได้มีการจัดงานนี้ในประเทศไทยอีกอย่างน้อย 6 จังหวัด ตลอดช่วงเดือนมิถุนายน[2]


              ปัจจุบันมีกว่า 80 ประเทศ ทั่วโลกที่มีการจัดขบวนไพรด์พาเหรดดังกล่าวในช่วงแรกของการจัดงานนั้นได้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตั้งแต่ gay parade,  gay and lesbian parade, LGBT parade ฯลฯ และมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานแตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัยตั้งแต่ระลึกถึงเหตุการณ์ “จลาจลสโตนวอลล์” เรียกร้องสิทธิการยอมรับในสังคมของเพศทางเลือกเฉลิมฉลองให้กับความหลากหลายทางเพศ ฯลฯ โดยเฉพาะประเด็นการเรียกร้องสิทธิทางกฎหมายนั้น แรกเริ่มเดิมทีในหลายประเทศจะเป็นการเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมาย Sodomy law ที่บัญญัติว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน เป็นความผิดทางอาญา ก่อนจะค่อยๆ ขยับมาเป็นการเรียกร้องสิทธิทางกฎหมายอื่น ๆ เช่น กฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือ กฎหมายป้องกันการเลือกปฏิบัติอันมาจากความแตกต่างทางเพศ หรือแม้กระทั่งหลักประกันความเสมอภาคความเท่าเทียมกันในรัฐธรรมนูญ[3]
 
 
 

ความหมายของชื่อย่อ LGBTQ+ 


 
                 สำหรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศซึ่งปัจจุบันนิยมใช้ชื่อย่อภาษาอังกฤษว่า LGBTQ+ (แอล-จี-บี-ที-คิว-พลัส) นั้นโดยตัวอักษรภาษาอังกฤษแต่ละตัวคือตัวแทนของความหลากหลายทางเพศแบบใดแบบหนึ่งตามเพศวิถี ดังนี้

                 L - lesbian (เลสเบี้ยน) : หญิงรักหญิง

                 G - gay (เกย์) : ชายรักชาย

                 B - bisexual (ไบเซ็กชวล) : ชายหรือหญิงที่มีความรักกับเพศเดียวกัน หรือเพศตรงข้ามก็ได้

                 T - transgender (ทรานส์เจนเดอร์) : ผู้ที่เปลี่ยนแปลงเพศสภาพของตน ไปเป็นเพศตรงข้าม

                 Q - queer (เควียร์) : คนที่ไม่จำกัดตนเองเป็นเพศใด ๆ และไม่เกี่ยวกับเพศสภาพ และตัวย่อนี้ยังรวมถึงบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ (+) อีกด้วย [4]

                 ปัจจุบันในทางการแพทย์บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศไม่ได้ “เป็นโรค”หรือ“มีความผิดปกติทางจิต” แต่อย่างใดโดยใน ICD-11 ขององค์การอนามัยโลกได้ถอดกลุ่มนี้ออกจากความผิดปกติทางจิตแล้ว[5]

ปัญหาด้านสุขภาพจิตในกลุ่ม LGBTQ+





                 ทั้งนี้ในขณะที่ผู้เขียนได้รับเชิญจากองค์การอนามัยโลกให้ไปเป็นกลุ่มที่ปรึกษานานาชาติ (international advisory group)[6] ในการทบทวน ICD-10 และพัฒนา ICD-11 ก็ได้มีการอภิปรายในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามได้มีรายงานว่า ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศบางคน ประสบปัญหาสุขภาพจิต เช่น มีภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือมีอาการนอนไม่หลับ โดยเฉพาะในรายที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัวชุมชนหรือสังคมหรือใน บางรายถูกตีตราจากสังคม บางรายถูกล่วงละเมิดทางเพศ เป็นต้น


                 ดังนั้นปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มบุคคลเหล่านี้สมควร จะได้รับความสนใจอย่างจริงจัง เปิดโอกาสให้ได้เข้าถึงบริการในระบบสุขภาพจิตให้มากขึ้นโดยบุคลากรทางการแพทย์จะต้องมีเจตคติในทางบวกต่อบุคคลกลุ่มนี้รวมทั้งต้องมีสมรรถนะการดูแลผู้มีปัญหาสุขภาพจิตที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะ (gender sensitive) ซึ่งได้มีผู้ทบทวนและเสนอแนะไว้แล้ว[7]
 

 

ข้อเสนอ

 
                 ผู้เขียนขอเสนอเพิ่มเติมว่าตั้งแต่การทำเวชระเบียน ในช่องที่ให้ระบุเพศซึ่งในแบบฟอร์มของโรงพยาบาลทั่วไปจะมีให้เลือกเฉพาะเพศชายหรือเพศหญิงเท่านั้น ควรเพิ่มช่องอื่นๆ สำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ด้วย ควรมีคลินิกเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม ควรมีห้องน้ำสำหรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ นอกเหนือจากห้องน้ำชาย ห้องน้ำหญิงและห้องน้ำสำหรับคนชราหรือผู้พิการ นอกจากนี้บรรยากาศในโรงพยาบาลควรเป็นมิตร (friendly) กับผู้ป่วยกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อเคารพถึงความเท่าเทียมกันไม่เกิด ความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากเพศสภาพ และเคารพในสิทธิมนุษยชน จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่สำหรับคนทุกวัยและทุกเพศสภาพ และทำให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศได้อยู่อย่างมีความสุข[8]
 


พิเชฐ อุดมรัตน์

ติดต่อผู้นิพนธ์ : email: pudomratn74@gmail.com
 
วารสารสุขภาพจิต ปีที่ 31 ฉบับที่ 2 เมษายน-มิถุนายน 2566
 

 
 
 
 
เอกสารอ้างอิง
 
1.โรงพยาบาลจุฬารัตน์9แอร์พอร์ต.“PrideMonth” เดือนแห่งความภูมิใจของ LGBTQ ความหลากหลายทางเพศที่เท่าเทียม [“Pride Month” is a month of pride for LGBTQ gender equality]. สมุทรปราการ: โรงพยาบาล; 2566[สืบค้นเมื่อวันที่16มิ.ย.2566].จาก: [link]
 
2. บริษัทบางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้งจำกัด(PPTV HD36). รวมที่เที่ยวงาน “PrideMonth”[Including attractionsfor “PrideMonth”]. กรุงเทพฯ:บริษัท; 2 มิ.ย. 2566 [สืบค้นเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2566]. จาก: [link]
 
 
3. ประชาไท. Rocket media lab: กว่าจะได้เดินอย่าง ‘ไพรด์’ สำรวจพาเหรดงานไพรด์และกฎหมายสมรสเท่าเทียมทั่วโลก [Rocketmedialab: walkinglike ‘Pride’ exploring pride parades and marriage equality laws around the world]. กรุงเทพฯ: ประชาไท; 4 มิ.ย. 2566 [สืบค้นเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2566]. จาก: [link]
 
4. โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ.ทำความรู้จักLGBTQ+ โอบกอดความหลากหลายที่ “ไม่จำเป็นต้องรักษา” [Get to know LGBTQ+, embrace diversity at “no treatment needed”].สมุทรปราการ:โรงพยาบาล;15พ.ย.2565 [สืบค้นเมื่อวันที่16มิ.ย.2566].จาก: [link]
 
5. World Health Organization.ICD-11 international classification of diseases 11th revision [Internet]. Geneva: WorldHealth Organization; 2018 [cited 2023 Jun 16]. Available from: https://icd.who.int/en
 
 
6. World Health Organization. Mental healthtopic advisory group for ICD-11 [Internet]. Geneva: World Health Organization 2018 [cited2023June16]. Available from: [link]
 
 
7. สมพร รุ่งเรืองกลกิจ, พันธุ์นภา กิตติรัตนไพบูลย์. ผลกระทบของเพศภาวะต่อสุขภาพจิตและแนวคิดเพศภาวะกำหนดนโยบายสุขภาพจิต [The impact of gender on mental health and concepts of gender approach mental healthpolicy].วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย. 2564;29(3):259-72.

8. สัตยา ประกอบชัย, รังสิมันต์ สุนทรไชยา, เอกอุมา อิ้มคำ. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับความสุขของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ [The factors related to the happiness among sexual-and gender-diverse persons]. วารสารพยาบาลทหารบก. 2564;22(2):187-96.
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด