พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาสุขภาพจิตถือเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทยที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างการมีสุขภาพจิตที่ดี และเฝ้าระวัง ป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ตลอดจนให้การดูแลจิตใจประชาชนเชิงรุกผ่านกลไกของระบบสุขภาพปฐมภูมิ บูรณาการการดูแลสุขภาพจิตร่วมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการให้สะดวกและรวดเร็ว
โดยจากการสำรวจสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตในพื้นที่ตำบลบ้านคลองเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พบว่า เด็กวัยเรียนและวัยรุ่น มีปัญหาเรื่องภาวะซึมเศร้า ส่วนวัยสูงอายุ พบปัญหาเรื่องคุณภาพชีวิตด้านจิตใจเสื่อมถอย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคลองเหมืองใหม่ จึงบูรณาการกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ นำหลักการ บ.ว.ร (บ้าน/ชุมชน วัด/โรงรียน และหน่วยงานราชการ) มาใช้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในชุมชน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาจิตใจประชาชนทุกกลุ่มวัย รวมทั้งกลุ่มเสี่ยง ในรูปแบบการดำเนินงาน “ลิ้นจี่เหมืองใหม่โมเดล” มีทีมอาสาสมัครสุขภาพจิตในชุมชน (อสช.) ในพื้นที่ ประกอบด้วย อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน (อสม.) ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง (Caregiver) ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care manager) ผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ช่วยกันระดมความคิด ค้นหาปัญหา สำรวจสุขภาพจิตของคนในชุมชน 4 กลุ่มวัย ได้แก่ วัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ พร้อมจัดกิจกรรมพูดคุยรับฟังปัญหา เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ วางแนวทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มวัย
นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังได้จัดกิจกรรมดูแลจิตใจในภาวะวิกฤติ ภายใต้พลัง บ.ว.ร ได้แก่ ชมรมธรรมะหรรษาสามวัย, สายด่วนออนไลน์ เหมืองใหม่ปรึกษาปัญหาใจ รับเรื่องร้องทุกข์หรือรับปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด และภัยธรรมชาติ, ธรรมะตามสายเดลี่เวอรี่ โดยการนำของ พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา และเจ้าอาวาสวัดอินทาราม และวัดทั้ง 9 แห่งในพื้นที่ เทศนาหลักธรรมคำสอนผ่านสื่อออนไลน์และเสียงตามสาย ช่วยบำบัดสร้างสติและสมาธิ, ธนาคารผ้าอ้อมผู้ใหญ่เพื่อผู้สูงอายุติดเตียงและผู้พิการ และกล่องเปิดใจวัยใส ทำให้ได้รับรางวัลตำบลจัดการคุณภาพชีวิตดีเด่นระดับประเทศ ในปี 2565 ทั้งนี้ จะมีการนำไปขยายผลในอีกรพ.สต. 17 แห่ง ของอำเภออัมพวาต่อไป