(10 ตุลาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,489 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 27.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 402 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 187 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 417.18 ล้านโดส โดยกัมพูชาฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (78.1% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 157,46 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 59,539,624 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 60.74%
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,489 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย
ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 59,539,624 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 34,782,627 โดส (52.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 23,055,555 โดส (34.8% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,701,442 โดส (2.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีน
ตั้งแต่ 28 ก.พ.- 10 ต.ต. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 59,539,624 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 230,852 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 667,176 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 17,454,946 โดส
- เข็มที่ 2 3,513,891 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,459,000 โดส
- เข็มที่ 2 15,253,237 โดส
- เข็มที่ 3 1,210,961 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,895,039 โดส
- เข็มที่ 2 3,753,246 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 973,642 โดส
- เข็มที่ 2 535,181 โดส
- เข็มที่ 3 490,491 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.6% เข็มที่2 119.3% เข็มที่3 90.8%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 62.6% เข็มที่2 55.1% เข็มที่3 8.6%
- อสม เข็มที่1 73% เข็มที่2 63.5% เข็มที่3 7.3%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 62.8% เข็มที่1 43.4% เข็มที่3 1.6%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 45.8% เข็มที่2 28% เข็มที่3 1.5%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 59.8% เข็มที่2 43.7% เข็มที่3 0.3%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 14.1% เข็มที่2 9.4% เข็มที่3 0.1%
- นักเรียน/นักศึกษา เข็มที่ 1 6% เข็มที่ 2 0%
รวม เข็มที่1 48.3% เข็มที่2 32% เข็มที่3 2.4%
5. ในภูมิภาคอาเซียน
ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ
รวมจำนวน 417,182,160 โดส
ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 157,468,784 โดส (36.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 59,539,624 โดส (52.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. เวียดนาม จำนวน 51,968,108 โดส (38.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 48,925,516 โดส (23.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 45,521,196 (74.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 25,724,448 โดส (79.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 12,636,220 โดส (15.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,583,761 โดส (78.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 5.281,198 โดส (41.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 533,305 โดส (73.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.84%
2. ยุโรป 11.04%
3. อเมริกาเหนือ 9.60%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.16%
5. แอฟริกา 2.79%
6. โอเชียเนีย 0.58%
7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศ
ลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,218.83 ล้านโดส (79.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 946.82 ล้านโดส (34.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 401.82 ล้านโดส (62.7%)
4. บราซิล จำนวน 248.20 ล้านโดส (60.1%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 172.13 ล้านโดส (68.2%)
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด
มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (99.1% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. คิวบา (97.6%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (95.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. อุรุกวัย (90.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (89.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. ชิลี (86.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
7. อิสราเอล (86.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (85.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. จีน (79.2%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
