"ตลอดช่วงเวลาของการระบาดของโควิด-19 FDA ทุ่มความพยายามเพื่อให้ทันรับมือกับสถานการณ์ วัคซีนโควิด-19 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือสำคัญและมีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการระบาด การอนุมุติการใช้วัคซีนเข็มกระตุ้น ทั้งของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ ในกลุ่มคนอายุ 18 ปีขึ้นไปครั้งนี้ จะช่วยให้กระบวนป้องกันโรคดำเนินต่อไป เพื่อลดผลกระทบรุนแรงที่จากการต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิต ที่จะเกิดขึ้น" - ถ้อยแถลงของพญ.แจเน็ต วู๊ดค๊อค ผู้แทน FDA
ก่อนหน้านี้ FDA ได้อนุมัติการใช้วัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปแล้ว สำหรับกลุ่มอายุ 18-64 ปีที่อนุมัติในรอบนี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีทั้งการติดเชื้อสูงและแพร่เชื้อ
วัคซีนกระตุ้น แนะนำให้ฉีดหลังจากที่ได้รับเข็มที่ 2 ไปแล้วอย่างน้อย 6 เดือน สำหรับคนที่ฉีดโมเดอร์นาหรือไฟเซอร์ครบโดสมาก่อน หรือ กรณีฉีดแจนเซ่น จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน สามารถฉีดเข็มกระตุ้นได้ หลัง 2 เดือน
"FDA พิจารณาอนุมัติจากข้อมูลสนับสนุนทั้งจาก โมเดอร์นาและไฟเซอร์ การอนุมัติให้สามารถรับการฉีดเข็มกระตุ้นได้ในทุกช่วงอายุครั้งนี้ จะช่วยขจัดความสับสน จากข้อกำหนดก่อนหน้านี้ที่อนุญาตให้ฉีดได้เฉพาะบางกลุ่ม (จำกัดเฉพาะกลุ่ม 65 ปีขึ้นไปเท่านั้น) และหวังว่าการเปิดกว้างครั้งนี้ จะช่วยให้ทุกคนได้รับวัคซีนตามที่ต้องการ
"วัคซีนเข็มกระตุ้น เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับฤดูหนาวที่กำลังใกล้เข้ามา" โรเชล วาเลนสกี้ แห่ง FDA กล่าวกับรอยเตอร์
รอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการอนุมัติให้ฉีดเข็มกระตุ้นได้ในกลุ่มผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) มีเพียง 32 ล้านคน (18%) เท่านั้นที่มารับการฉีดตามข้อมูลของ CDC ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบโดสไปแล้วราว 195.7 ล้านราย จากวัคซีนหลัก 3 ชนิด
ดร.แอนโทนี เฟาซี่ ผอ. CDC กล่าวว่าวัคซีนเข็มกระตุ้น (และการฉีดวัคซีนในประชาชนทั้งหมด) จะช่วยให้สหรัฐก้าวผ่านฤดูหนาวที่หนักหน่วงที่รออยู่ได้ ท่ามกลางความกังวลจากตัวเลขการระบาดที่กลับมาเพิ่มสูงในช่วงเวลาเพียงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลักก็มาจากเชื้อเดลต้าที่ยังคงแพร่กระจายระหว่างคนต่อคนที่เข้าไปใช้พื้นที่ในอาคารและจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น