ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ครม.อนุมัติงบ 31,000 ล้าน ให้ สปสช.ใช้ดูแลโควิด ปี 2565

ครม.อนุมัติงบ 31,000 ล้าน ให้ สปสช.ใช้ดูแลโควิด ปี 2565 Thumb HealthServ.net
ครม.อนุมัติงบ 31,000 ล้าน ให้ สปสช.ใช้ดูแลโควิด ปี 2565 ThumbMobile HealthServ.net

ส่งท้ายปี ครม.มีมติเห็นชอบการใช้จ่ายเงินกู้ ตามพรก.กู้เงินเพิ่มเติมปี 2564 สำหรับการใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ในปี 2565 อาทิ อนุมัติงบ 31,000 ล้านให้สปสช.ดูแลประชาชน โครงการเสริมแกร่งเกษตรกรของม.เกษตรฯ โครงการเยียวยานายจ้าง-ผู้ประกันตนของประกันสังคม โครงการช่วยอาชีพขนส่งของกรมการขนส่งทางบก

28 ธันวาคม 2564  เวลา 09.00 น. พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564  ที่เกี่ยวกับโควิด ปี 2565 
 
 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 19/2564 ที่ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของข้อเสนอแผนงานหรือโครงการเพื่อขอใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รวมทั้งการพิจารณาข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ดังนี้
 
 

1. อนุมัติโครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพ ปี 2565 รอบที่ 1 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรอบวงเงิน 31,662.9175 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่ 1 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยบริการสถานพยาบาลที่ให้บริการสาธารณสุขโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศ พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ และดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 อย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ เห็นควรให้ สปสช. พิจารณาแบ่งการเบิกจ่ายเงินออกเป็น 2 ครั้ง (เดือนธันวาคม 2564 และกลางเดือนมกราคม 2565)


 
 
 
 2. อนุมัติโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงิน 221.3820 ล้านบาท (ปรับลดจำนวน 57.5180 ล้านบาท) โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่ 3 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาดของเกษตรกร ทำให้กิจกรรมหรือธุรกิจของเกษตรกรมีการเติบโต และส่งผลให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพื่อดำเนินธุรกิจในระบบเศรษฐกิจ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สามารถถัวจ่ายเงินระหว่าง 3 รายการ ได้แก่
(1) รายการสื่อสารทางยุทธศาสตร์และการประชาสัมพันธ์
(2) รายการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์ และ
(3) รายการพัฒนาออกแบบหลักสูตรค่าประสานงานภาคสนาม การติดตามและประเมินผล ได้



3. มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ และดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รวมถึงดำเนินการเพิ่มเติมตามมติคณะกรรมการฯ โดยเคร่งครัด



4. เห็นชอบให้สำนักงานประกันสังคม เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด และโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยขยายระยะเวลาโครงการ จากเดิม สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็น สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาตามโครงการฯ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว อย่างไรก็ดี เห็นควรให้สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมของการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวตามขั้นตอนโดยเร็ว เพื่อให้ความช่วยเหลือของภาครัฐถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยเร็ว



5. เห็นชอบให้กรมการขนส่งทางบก เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยขยายระยะเวลาโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2564 เป็น สิ้นสุดเดือนมกราคม 2565 เพื่อให้กรมการขนส่งทางบกมีระยะเวลาเพิ่มขึ้นในการตรวจสอบข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ยื่นขอทบทวนสิทธิหรืออุทธรณ์ในการขอรับเงินจากโครงการเยียวยาฯ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด