ปักกิ่ง คลายมาตรการโควิด
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโดยรวมทั้งประเทศจีนยังคงอยู่ในระดับสูง แต่บางเมืองบางมณฑลเริ่มขยับมาตรการหรือผ่อนคลายความเข้มงวดรวมถึงการกักตัวลงบ้างแล้ว หลังจากผลกระทบเริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะกับประชาชนจนเกิดการประท้วงเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทางการปักกิ่ง ประกาศว่าตั้งแต่ วันที่ 6 ธันวาคม จะยกเลิกการแสดงผลตรวจ PCR (แต่ยังต้องสแกน QR Code) เมื่อต้องเข้าใช้บริการในพื้นที่สาธารณะ อาทิ รถไฟใต้ดิน ซุปเปอร์มาเก็ต อาคารพาณิชย์ ที่พักอาศัยชุมชน แต่สถานที่สาธารณะบางแห่งยังคงจำเป็นต้องแสดงผลตรวจ 48 ชั่วโมง เช่น สำนักงาน โรงพยาบาล อินเตอร์เน็ตค่าเฟ่ คาราโอเกะ บาร์ ยิม โรงเรียนทุกระดับ กรณีการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันมาก ให้ผู้จัดหรือหน่วยงานใช้ดุลพินิจกำหนดมาตรการเอง (
CGTN)
ประชาชนที่มีถิ่นพำนักถาวรในปักกิ่ง สามารถจะเดินทางได้โดยไม่ต้องสแกนโค๊ด
มาตรการผ่อนคลายลักษณะเดียวกัน ถูกใช้ในเมืองสำคัญ หลายเมืองเช่นกัน ทั้ง เทียนจิน (Tianjin) ฉงชิ่ง (Chongqing) อู่ฮั่น (Wuhan) ฉือเจียจวง (Shijiazhuang) หนานจิง (Nanjing) เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เจ้อเจียง (Zhejiang) เจียงซี (Jiangxi) และ ซานตง (Shandong)
สนามบิน 2 แห่งในกรุงปักกิ่ง ยกเลิกการแสดงผลตรวจหาเชื้อ ยกเว้นหากต้องเข้าร้านอาหารในนั้น
เมืองอัคซู ในเขตปกครองซินเจียง อุยกูร์ ก็ยกเลิกการตรวจเชื้อแล้วเช่นกัน เว้นเพียงบางกลุ่ม ประชาชนสามารถซื้อยาแก้ไข้ แก้ไอ ยาแก้อักเสบ ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนก่อน
ทั้งนี้ ข้อกำหนดให้ต้องใส่หน้ากากอนามัยและการสแกน ยังคงจำเป็นและมีผลบังคับอยู่ต่อไป (
CGTN)
เซินเจิ้น ซินเจียง กว่างโจว เริ่มผ่อนคลาย
นครเซินเจิ้น เริ่มขยับมาตรการผ่อนคลาย โดยประกาศยกเลิกการแสดงผลตรวจเมื่อต้องเข้าไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ ร้านอาหารหรือสวนสาธารณะ พร้อมกับยกเลิก การตรวจสอบยานพาหนะก่อนเดินทางด้วยเช่นกัน สอดคล้องไปกับมาตรการผ่อนคลายที่เกิดในเมืองใหญ่อื่นๆ อย่าง เฉิงตู เทียนจิน [
CNBC]
เมืองซินเจียง มณฑลเหอหนานทางตอนกลางของจีน ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจ PCR จำนวน 1,000 เครื่อง ในพื้นที่หลายมุมเมือง โดยส่วนใหญ่จัดวางอยู่ตามชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล ซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท และสถาบันต่างๆ ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่สามารถเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งสำหรับทดสอบกรดนิวคลีอิกอย่างชำนาญภายในเวลาไม่ถึง 20 วินาที
ทางการท้องถิ่นนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สะสม 162,700 ราย ระหว่างการกลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการคิดเป็นราวร้อยละ 90 ของผู้ป่วยทั้งหมด จางอี้ รองผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพเทศบาลเมืองกว่างโจว กล่าวในการแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นที่กว่างโจวว่าในจำนวนนี้ ผู้ป่วย 4 รายมีอาการหนักขั้นวิกฤต ทว่ายังไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด จางระบุว่าขณะนี้กว่างโจวมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยเกือบ 90,000 เตียง และเตียงในหอผู้ป่วยหนักมากกว่า 2,000 เตียงสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน เขตทุกแห่งในกว่างโจวได้จัดตั้งสถานที่เก็บตัวอย่างกรดนิวคลีอิกรวมกว่า 1,700 แห่ง ตั้งแต่วันศุกร์ (2 ธ.ค.) โดยมี 87 แห่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เขตไห่จู เทียนเหอ พานอวี๋ และลี่วานในกว่างโจวได้ยกเลิกมาตรการควบคุมชั่วคราวทั้งหมดเมื่อวันพุธ (30 พ.ย.) โดยพื้นที่ทั้งหมดยกเว้นพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 ระดับสูง ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่เสี่ยงระดับต่ำ หรืออยู่ภายใต้มาตรการควบคุมปกติ (ซินหัว)
เมืองอื่นๆ ต่างทยอยผ่อนคลาย
หลายเมืองในกว่างโจว มณฑลกวางตุ้งทางใต้ของจีน ประกาศยกเลิกมาตรการชั่วคราวทั้งหมดตั้งแต่ 30 พฤศจิกายน ลดระดับความรุนแรงของพื้นที่ลงมาอยู่ในระดับเสี่ยงต่ำจนถึงปกติ ยกเว้นบางพื้นที่ที่อาจจะคงเสี่ยงสูง และตั้งแต่วันพุธที่ 7 ธันวาคม เป็นต้นไป สถานที่ให้บริการสาธารณะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ เช่น โรงภาพยนต์ ฟิตเนส หรือสถานที่ปิด หรือกึ่งปิด ร้านอาหาร สามารถเปิดนั่งทานในร้านได้
เมืองหังโจว เวิ่นโจว ไท่โจว หนิงโบ ในมณฑทลเจ้อเจียง ยกเลิกมาตรการบังคับตรวจหาเชื้อแต่เป็นไปโดยสมัครใจแทน แต่ประชาชนที่ต้องการซื้อยารักษาอาการบางชนิด ยังต้องแสดงรหัสสุขภาพเช่นเดิม
จังหวัดซานตงทางตะวันออกของจีน สั่งยกเลิกการแสดงผลตรวจ PCR ก่อนเดินทาง เข้าใช้ทางด่วนหรือท่าเรือ
เมืองเจิ้งโจว ในมณฑลเหอหนานทางตอนกลางของจีน ประกาศให้สถานที่ที่ให้บริการในอาคารสามารถเปิดให้บริการได้ เช่น ร้านเสริมสวย ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต โดยต้องกำหนดมาตรการป้องกันให้เหมาะสม เช่น ตรวจอุณหภูมิ สวมหน้ากาก หรือแสดงผลตรวจ PCR
5 เมืองใหญ่ ผ่อนมาตรการการเดินทาง
การเดินทางระหว่างเมืองได้อย่างสะดวกเป็นส่วนสำคัญของการฟื้นตัว ล่าสุดเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน 5 แห่ง ได้แก่ ปักกิ่ง กว่างโจว เทียนจิน เฉิงตูและฉงชิ่ง ได้ปรับมาตรการการเดินทางใหม่ ที่สำคัญคือการยกเลิกการแสดงผลตรวจ PCR จะทำให้ประชาชนกว่า 100 ล้านคน สามารถเดินทางได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเข้าใช้พื้นที่สาธารณะหลายแห่ง
การยกเลิกความเข้มข้นใน 5 เมืองใหญ่ ถือเป็นสัญญาณที่ดี พิจารณาจากความสำคัญของการทั้ง 5 เมือง ในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจ ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 107 ล้านคน คิดเป็น 7.6% ของประชากรจีนทั้งประเทศ มีมูลค่า GDP รวมกันเกือบ 12% ของประเทศ ในช่วงการระบาดของโอมิครอนทั้ง 5 เมือง เพราะมีผู้ติดเชื้อรวมกันแล้วเกินครึ่งของทั้งประเทศ ทางการได้ออกมาตรการกักตัวที่บ้าน ส่งผลกระทบรุนแรงอย่างมากต่อเศรษฐกิจของจีน ดังนั้นการผ่อนคลายรอบนี้ แน่นอนย่อมเป็นการฟื้นเศรษฐกิจจีนได้โดยตรง ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นทันที ทั้งตลาดในและนอกประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระบุว่า มาตรการผ่อนคลายการเดินทางในประเทศครั้งนี้ จะยกระดับอัตราแลกเปลี่ยนหยวนดอลล่าร์ให้กลับมาสู่ปกติได้ภายในปีหน้า และการดำเนินมาตการผ่อนคลายเป็นระยะเช่นนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งต่อการฟื้นตัวด้วยเช่นกัน (
CGTN)