ฉีดวัคซีนโควิด19 เชื้อตายในมนุษย์ 18 คน
องค์การเภสัชกรรมร่วมกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล วิจัยวัคซีนโควิด 19 ชนิดเชื้อตายในมนุษย์ระยะที่ 1 และ 2 รวม 460 คน ประเดิมฉีดเข็มแรกในอาสาสมัครกลุ่มแรกก่อน 18 คน คาดปี 65 ยื่นขอทะเบียนตำรับและผลิตในระดับอุตสาหกรรม
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 22 มี.ค. ที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล องค์การเภสัชกรรม(อภ.) ร่วมคณะเวชศาสตร์เขตร้อน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานแถลงข่าววัคซีนโควิด 19 ชนิดเชื้อตายขององค์การเภสัชกรรม เริ่มวิจัยในมนุษย์ระยะที่ 1-2 พร้อมให้กำลังใจอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในการวิจัย
ศ.พญ.พรรณี ปิติสุทธิธรรม หัวหน้าโครงการวิจัย ศูนย์วัคซีน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด19 ชนิดเชื้อตายในอาสาสมัครครั้งนี้เป็นการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 1 และ2 โดยเริ่มทดลองกลุ่มแรก 18 คน และในวันนี้(22 มี.ค.) ได้ฉีดในอาสาสมัคร 4 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 2 คน และช่วงบ่าย 2 คน โดยก่อนฉีดในอาสาสมัครมีการคัดเลือกตามเกณฑ์ต่างๆ อาทิ ไม่เคยป่วยโควิด19 ไม่ตั้งครรภ์ ฯลฯ โดยเมื่อฉีดวัคซีนแล้ว 30 นาทีแรกจะตรวจอาการข้างเคียง 1 รอบก่อน จากนั้นสังเกตอาการอีก 4 ชั่วโมงก่อนกลับบ้าน
องค์การเภสัชกรรมพร้อมที่จะผลิตวัคซีนในทันทีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่าภายในปี 2565 จะขอรับทะเบียนตำรับและเริ่มผลิตวัคซีนได้ กำลังการผลิต 25-30 ล้านโดสต่อปี เบื้องต้นจากการทดลองในหลอดทดลองพบว่ารับรับสายพันธุ์ต่างๆ ได้ และได้ผลดีในสายพันธุ์แอฟริกาใต้
เมื่อถามถึงกรณีวัคซีนโควิดเชื้อตาย จะครอบคลุมเชื้อกลายพันธุ์แอฟริกาใต้หรือไม่ ศ.พญงพรรณี กล่าวว่า กำลังวิจัยอยู่ และต้องตรวจหาภูมิต้านทานที่กระตุ้นต่อวัคซีนนี้ จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันอย่างไร อย่างไรก็ตาม โดยโครงสร้างเราเชื่อว่า จะสามารถกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานกว้างขึ้น
Hfocus
21 มีนาคม 64