เมื่อการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงศักยภาพของยา mRNA และอนุภาคนาโนไขมัน (LNP) ต่อภูมิคุ้มกันของมนุษย์มากขึ้น บรรดาผู้นำในอุตสาหกรรมต่างยอมรับความสามารถของเทคโนโลยี LNP ในการปรับปรุงการนำส่งยา mRNA โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ว่านี้นับเป็นขอบเขตใหม่ในการคิดค้นทางเลือกเพื่อป้องกันและรักษา และดัน LNP ให้เป็นตัวแทนเทคนิคการรักษารุ่นใหม่ที่ก้าวล้ำ
โอกาสที่ปรากฏให้เห็นใหม่เหล่านี้ ทำให้มูลนิธิถังไพรซ์ (Tang Prize Foundation) เลือกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเทคโนโลยีชีวภาพไต้หวัน ถังไพรซ์ (Tang Prize Taiwan Biotechnology Forum) โดยเชิญผู้ได้รับรางวัลถังไพรซ์ ครั้งที่ 5 ในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวเภสัชกรรมอย่างคุณคาทาลิน คาริโก (Katalin Karikó) ดรูว์ ไวส์แมน (Drew Weissman) และปีเตอร์ คัลลิส (Pieter Cullis) มาร่วมสำรวจภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของเทคโนโลยี mRNA กับนักวิจัยที่มีชื่อเสียงจากสถาบันเคมีชีวภาพในสังกัดสถาบันอคาเดเมีย ซินิกา (Academia Sinica หรือ AS) อย่างคุณแอนดรูว์ เอช เจ หวัง (Andrew H.-J. Wang) ไปจนถึงคุณอี้จวง เฉิน (Yi-Juang Chern) รัฐมนตรีช่วยว่าการสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTC) และคุณซารา โฮว (Sara Hou) ซีอีโอของทีทีวาย ไบโอฟาร์ม (TTY Biopharm) โดยคุณซารา โฮว เป็นกระบอกเสียงสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ และได้เข้ามากล่าวถึงประเด็นสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การจัดการกับความต้องการทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ และการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
ศาสตราจารย์หวังได้เข้ามาเผยทิศทางเชิงกลยุทธ์ของสถาบันอคาเดเมีย ซินิกา โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งทีมวิจัยและสร้างศูนย์นำร่อง GMP เพื่อบุกเบิกเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขณะที่คุณไวส์แมนนำเสนอข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างแข็งแกร่งในการควบคุมโรงงานผลิตระดับ GMP ในภูมิภาคต่าง ๆ ในฐานะที่ปรึกษาให้กับโครงการริเริ่มดังกล่าว
ส่วนทีทีวาย ไบโอฟาร์ม เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไลโปโซมที่เข้าร่วมการประชุมนี้ด้วย โดยคุณโฮวเน้นย้ำถึงความจำเป็นเบื้องต้นในการสำรวจหาความต้องการทางคลินิกที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง รวมถึงความต้องการที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งและโรคหายาก เพื่อผลักดันความก้าวหน้าในการพัฒนายา mRNA นอกจากนี้ คุณโฮวยังเน้นย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการส่งเสริมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์หลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมของตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นซึ่งต้องหาทางลดเวลาในการออกสู่ตลาด สุดท้ายนี้ เธอเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของการแทรกแซงจากรัฐบาล เพื่อรวมและอำนวยความสะดวกในเรื่องทรัพยากร กฎระเบียบ และแพลตฟอร์มที่จำเป็น
คุณโฮวได้กล่าวคำปราศรัยปิดท้าย โดยเน้นย้ำว่า การใช้แนวทางแบบบูรณาการที่ครอบคลุมอุตสาหกรรม รัฐบาล และสถาบันการศึกษา ทำให้ไต้หวันมีศักยภาพในการเร่งการวิจัยและพัฒนา (R&D) และเปิดตัวยานวัตกรรมใหม่ ๆ ในตลาด ซึ่งไม่เพียงแต่เข้ามาเปลี่ยนผลลัพธ์ให้ผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังยกระดับสถานะของไต้หวันในเวทีเทคโนโลยีชีวภาพระดับโลกอีกด้วย