ตารางค่า GI ของอาหาร
ผลไม้ |
|
ผลิตภัณฑ์นม |
|
เครื่องดื่ม |
|
ของว่าง ขนมขบเคี้ยว |
|
แอปเปิ้ล |
38 |
นมช็อคโคแลต |
35 |
น้ำแอปเปิ้ล |
40 |
ช็อคโคแลตแท่ง |
49 |
กล้วย |
56 |
ไอศกรีมวนิลาไขมันต่ำ |
60 |
โคล่า |
65 |
ข้าวโพด แผ่นทอดกรอบ |
72 |
อินทผาลัม |
103 |
นมขาดมันเนย |
32 |
เกเตอเรท |
78 |
โดนัท |
76 |
เกร๊ปฟรุ๊ต |
25 |
นมสด |
40 |
น้ำเกร๊ปฟรุ๊ต |
48 |
พิซซ่าหน้าชีส |
60 |
ส้ม |
43 |
โยเกิร์ตผลไม้ |
36 |
น้ำส้ม |
46 |
มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ |
56 |
ลูกพรุน |
15 |
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ |
14 |
น้ำสับปะรด |
46 |
เพรสเซิ้ล |
83 |
แตงโม สับปะรด แคนตาลูป |
72 66 65 |
|
|
|
|
|
|
ค่า GI
ตามทฤษฎีแล้ว การกินอาหารที่มีค่า GI ต่ำจะช่วยให้เซลล์ร่างกายของคุณใช้อินซูลินได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเซลล์จะรับน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง เป็นผลให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคุณได้ดีขึ้น และถ้าใช้อินซูลิน ก็จะช่วยลดความต้องการอินซูลินลงด้วย
ค่า GI ในอีกมุมมองหนึ่ง
ค่า GI ฟังดูเป็นเรื่องที่ดี สำหรับผู้เป็นเบาหวาน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการยังคงมีข้อโต้แย้งกันว่าค่า GI จะให้ประโยชน์ต่อผู้เป็นเบาหวานในการเลือกกินอาหารเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลได้มากน้อยเพียงไร ประเด็นที่ถกกันมี ดังนี้
1. มีปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อค่า GI
2. ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน
ฉะนั้นระดับน้ำตาลในเลือดที่ ผู้เป็นเบาหวานตอบสนองต่ออาหารชนิดเดียวกันอาจแตกต่างกันได้ในแต่ละวัน (การทดสอบค่า GI ในอาหาร ทำกับคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน)
3. อาหารบางชนิด เช่น แครอทแม้จะมีค่า GI สูง แต่มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ
ในขณะที่ ไอศกรีมมีค่า GI ต่ำ แต่มีน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวสูง สารอาหารก็สู้ แครอทไม่ได้ ดังนั้นในการเลือกอาหารก็ต้องพิจารณาหลายปัจจัยมิใช่แค่ดูค่า GI เพียงอย่างเดียว
4. การเลือกกินอาหารที่มีค่า GI ต่ำติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย
ใช้ค่า GI วางแผนโภชนาการ
เมื่อพิจารณาประเด็นเหล่านี้แล้ว ดูเหมือนว่าการวางแผนการกินอาหารโดยใช้หลัก GI ต่ำ อาจทำให้สับสนและใช้เวลามากโดยที่อาจไม่ได้ให้ผลดีที่สุดต่อสุขภาพ
สรุปก็คือเราอาจใช้ GI เป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ควรยึดเป็นวิธีเดียวที่ใช้ตัดสินการเลือกอาหาร วิธีดีที่สุดก็คือยึดหลักแผนการกินที่ดีและออกกำลังกายตลอดโปรแกรม เพื่อช่วยให้คุณคุมเบาหวานได้ดีขึ้น
เป้าหมายคือเลือกอาหาร GI ต่ำหนึ่งอย่างในแต่ละมื้อ ลองดูตัวอย่าง
|
* ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ ก่อนและหลังอาหารเพื่อจะดูว่าอาหารมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณอย่างไร
อย่างไรก็ตาม...
จำไว้ว่า อาหารทดแทนสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน อย่างกลูเซอนา เอสอาร์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้เป็นเบาหวานโดยเฉพาะ จึงมีค่า GI ต่ำ (GI=30) และมีคาร์โบไฮเดรตที่ถูกย่อยและดูดซึมอย่างช้าๆ ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เมื่อเทียบกับสูตรเครื่องดื่มมาตรฐาน
ลองใช้หลัก GI ดู
ด้วยการทดลองเล็กๆจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าค่า GI มีประโยชน์กับคุณรึเปล่า?
1. เลือกอาหารมา 2 มื้อในสัปดาห์นี้ โดยไม่ใช้อาหารทดแทนสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน อย่างกลูเซอนา เอสอาร์ สมมุติเป็นมื้อเย็นวันอังคารกับวันพฤหัส วางแผนมื้ออาหารให้คล้ายกัน กินในปริมาณใกล้เคียงกัน แต่ใช้อาหารคาร์โบไฮเดรตต่างชนิดกัน
2. บันทึกระดับน้ำตาลในเลือดของคุณทั้งสองวัน ทั้งก่อนอาหารและสองชั่วโมงหลังอาหาร
3. เอาค่าระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารตั้งลบด้วยค่าระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร ของทั้งสองมื้อ
4. เปรียบเทียบความต่างของระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร มื้อที่กินอาหารคาร์โบไฮเดรตที่มีค่า
GI ต่ำ ว่าระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารสูงขึ้น น้อยกว่า มื้อที่เลือกกินอาหารคาร์โบไฮเดรตที่มีค่า GI สูงหรือไม่
เห็นได้ชัดว่า นี่ไม่ใช่การทดลองวิทยาศาสตร์ และมีปัจจัยอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารที่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ อย่างเช่นเมื่อเจ็บป่วย แต่ถ้าคุณเห็นผลแตกต่างไปในทางบวก อาจจะทำให้คุณอยากใช้ค่า GI ช่วยเลือกอาหารในแต่ละมื้อของคุณได้ไม่เสียหายอะไร
บทสรุป