ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ตอบข้อสงสัย ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง X-RAY แล้วทำไมต้องทำ MRI อีกล่ะ

ตอบข้อสงสัย ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง X-RAY แล้วทำไมต้องทำ MRI อีกล่ะ HealthServ.net
ตอบข้อสงสัย ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง X-RAY แล้วทำไมต้องทำ MRI อีกล่ะ ThumbMobile HealthServ.net

แพทย์เฉพาะทางแนะ หากคุณมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ควรทำเอกซเรย์ และ MRI ควบคู่กัน เพราะจะทำให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เนื่องจากเอกซเรย์ จะทำให้เห็นถึงโครงสร้างของกระดูกสันหลังได้อย่างชัดเจน ส่วนการทำ MRI จะเห็นความผิดปกติของหมอนรองกระดูกและเนื้อเยื่อได้อย่างชัดเจน และเพื่อการรักษาที่ตรงจุดจึงควรทำทั้ง X-RAY และ MRI ควบคู่กัน

 
หลังจากที่แพทย์ได้ซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยแล้ว และหากยังได้ข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยไม่ครบถ้วน ขั้นตอนต่อไปแพทย์จะส่งตรวจทางรังสีวินิจฉัย ซึ่งโดยทั่วไปเครื่องมือที่แพทย์กระดูกสันหลังนิยมใช้ได้แก่ X-RAY และ MRI ซึ่งแต่ละวิธีมีขั้นตอนและจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน 
 
 
 
ตอบข้อสงสัย ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง X-RAY แล้วทำไมต้องทำ MRI อีกล่ะ HealthServ
 นพ.เมธี ภัคเวช  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่า หลายคนมีความสงสัยว่าระหว่าง X-RAY และ MRI มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ทั้งๆ ที่เป็นเครื่องมือที่แพทย์ใช้วินิจฉัยหาความผิดปกติภายในร่างกายของผู้ป่วย ซึ่ง นพ.เมธี อธิบายว่า ในกรณีที่คุณมีอาการผิดปกติทางด้านกระดูกสันหลัง รู้สึกปวดหลังร้าวลงขา หรือปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ และอยากที่จะรักษาให้หายขาดก็มีความจำเป็นต้องตรวจทั้งเอกซเรย์ และ MRI ควบคู่กัน เพราะจะทำให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ เนื่องจากเอกซเรย์จะเน้นดูโครงสร้างของกระดูกสันหลัง ส่วนการทำ MRI จะเห็นความผิดปกติของหมอนรองกระดูกได้อย่างชัดเจนนั้นเอง  หากแพทย์วิเคราะห์ได้ตรงจุด ผลลัพธ์ของการรักษาที่ได้ก็จะมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจึงต้องใช้ทั้ง X-RAY และ MRI ช่วยในการวิเคราะห์โรคเพื่อความถูกต้องและแม่นยำ  ซึ่งในการดูฟิล์มเอกซเรย์ หรือผลตรวจของ MRI จำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการอ่านผล เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้
ตอบข้อสงสัย ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง X-RAY แล้วทำไมต้องทำ MRI อีกล่ะ HealthServ
 
นพ.เมธี เผยว่า จากผลสำรวจการใช้งานเครื่อง MRI ทั่วโลกในปี 2018 พบว่า ความเหมาะสมในการตรวจโรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังมาเป็นลำดับแรก รองลงมาคือ สมอง เนื่องจากเครื่อง MRI ให้รายละเอียดและความคมชัดสูงระดับ 3 มิติ (3D) ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกายได้อย่างแม่นยำ และที่สำคัญการตรวจด้วยเครื่องมือชนิดนี้ ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ แก่ร่างกาย และไม่มีอันตรายจากรังสี  ขณะที่ MRI ที่ใช้อยู่ทั่วโลกประมาณ 90% จะเป็นแบบอุโมงค์ ซึ่งต่างจากเครื่อง MRI แบบยืนที่มีจำนวนจำกัด แต่ที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของเครื่อง MRI แบบยืน จึงนำมาใช้ในการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีเพียงเครื่องเดียวในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ ตรงจุด และชัดเจน แก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างยั่งยืน
 
สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาการปวดอาจมาจากหลายสาเหตุดังนั้นเมื่อมีสัญญาณเตือนอาการเหล่านี้ ควรเริ่มป้องกันและค้นหาสาเหตุคือสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อมีอาการแล้วก็ไม่ควรปล่อยไว้นานจนเรื้อรัง เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคร้ายแรงได้
 
โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ปรึกษา  โทร 02 034 0808
ตอบข้อสงสัย ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง X-RAY แล้วทำไมต้องทำ MRI อีกล่ะ HealthServ
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด