ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจ้างงานข้าราชการภายหลังเกษียณอายุ 60 ปี เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจ้างงานข้าราชการภายหลังเกษียณอายุ 60 ปี เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
เรื่องเดิม
- สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้เสนอรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจ้างงานข้าราชการภายหลังเกษียณอายุ 60 ปี เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา มาเพื่อดำเนินการ โดยคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า การจ้างงานข้าราชการหลังเกษียณสามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1) ความจำเป็นของภาครัฐ การขาดแคลนบุคลากรบางประเภท ความต้องการบุคลากรให้สอดคล้องกับบริบทของการบริการสาธารณะในอนาคต
2) การเตรียมรับสังคมสูงวัย เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงวัยผู้มีความชำนาญและความสามารถสูงได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม และ
3) ความจำเป็นด้านรายได้ที่พอเพียงสำหรับดำรงชีวิตหลังเกษียณ ระบบบำนาญชราภาพของประเทศยังไม่ครอบคลุมประชากรระดับบำนาญไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพและขาดความยั่งยืนทางการคลัง
และได้มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับการชะลอหรือทบทวนการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมการจ้างงานเพื่อใช้ศักยภาพข้าราชการเกษียณ และการศึกษาเพื่อปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญของข้าราชการส่วนท้องถิ่น
- รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ สำนักงาน ก.พ. เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานและข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ข้อเท็จจริง
สำนักงาน ก.พ. ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายเลขานุการขององค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงกลาโหม (กรมเสมียนตรา) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกรุงเทพมหานคร
โดยที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ สรุปได้ดังนี้
ข้อเสนอแนะ 1. การชะลอหรือทบทวนการขยายเกษียณอายุราชการตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม
ผลการพิจารณาศึกษา
เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากประเทศกำลังประสบปัญหา การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งส่งผลกระทบที่สำคัญต่อสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนระบบการคลังและงบประมาณรัฐบาล จึงควรใช้จ่ายงบประมาณที่มีจำกัด เพื่อให้เกิดการจ้างงานกลุ่มเป้าหมายที่เปราะบางก่อนเป็นลำดับแรก และเมื่อประเทศสามารถจัดการผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แล้ว จึงสามารถนำมาพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป
ข้อเสนอแนะ 2. การจ้างงานเพื่อใช้ศักยภาพข้าราชการเกษียณ
ผลการพิจารณาศึกษา
เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ที่เสนอให้มีการกำหนดทางเลือกที่หลากหลายในการจ้างงานข้าราชการที่เกษียณอายุราชการควบคู่ไปกับมาตรการขยายอายุเกษียณ ทั้งนี้ ให้พิจารณาตามความจำเป็นและความต้องการบุคลากรในแต่ละตำแหน่งหรือสาขา เช่น ตำแหน่งหรือสาขาที่ขาดแคลนกำลังคน ตำแหน่งที่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ โดยให้พิจารณาจ้างข้าราชการที่เกษียณอายุราชการในรูปแบบอื่น อาทิ การจ้างเหมาบริการ การรับงานไปทำ เป็นต้น
ข้อเสนอแนะ 3. การศึกษาเพื่อปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญของข้าราชการส่วนท้องถิ่น
ผลการพิจารณาศึกษา
เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ได้มีการเตรียมความพร้อม โดยการวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง และจะได้มีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลและแนวทางการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดรับกันต่อไป