News ข่าวสุขภาพ ข่าวโควิด บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
แพคเกจสุขภาพ
ตำแหน่งงาน น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com
เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต HealthServ.net
เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต HealthServ.net

เหตุผลที่ทำให้คนตัดสินใจที่จะเลือกทำศัลยกรรมคืออะไร ? จริงหรือไม่ที่ปัจจุบันการศัลยกรรมถือเป็นเรื่องปกติในสังคมไปเสียแล้ว ซึ่งมุมมองของสังคมไทยนั้นมีทั้งด้านบวกและด้านลบ แต่ในความเป็นจริงการตัดสินใจทำศัลยกรรมนั้นมาจากสาเหตุใดบ้าง

เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต HealthServ
 จากข้อมูลของ International Society of Aesthetic Plastic Surgeons ระบุว่า ในปี 2562 การศัลยกรรมตกแต่งทั่วโลก เพิ่มขึ้นกว่า 7.4% โดยกลุ่มหลักได้แก่ผู้หญิงในวัย 35-50 ปี ขณะที่รูปแบบการศัลยกรรมที่นิยมทำมากที่สุดได้แก่ ศัลยกรรมหน้าอก ตามด้วยการดูดไขมัน ปรับแต่งรูปร่าง และศัลยกรรมตา และพบว่าปัจจุบันคนนิยมทำศัลยกรรมเพื่อเป็นการสร้างโอกาสและรางวัลของชีวิต  หลากหลายทัศนะถูกสะท้อนผ่านผู้ที่เข้ารับการศัลยกรรม
 
 
เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต HealthServ
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 คุณทิพย์วิภา ทักษิมา  ผู้กำกับเสียงพากย์สาวแห่งค่ายกันตนา เผยที่มาของการอยากมาทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ว่าเธอนั้นอยากเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการทำงาน เพราะที่ผ่านมาเคยไปแคสติ้งงานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำแต่ไม่ผ่าน  แม้ว่าคนว่าจ้างจะบอกว่าเธอหน้าตาสวยแต่ไม่ผ่านเพราะหน้าอกเธอไม่สวย ทำให้เรือนร่างดูไม่สมส่วน จึงไม่ถูกคัดเลือก   หลังจากนั้นเธอจึงตัดสินใจเสริมหน้าอก และหลังศัลยกรรมหน้าอกเธอยอมรับว่าเป็นการสร้างโอกาสในหน้าที่การงานของเธอหลายเรื่อง  
 
 
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 ขณะที่ คุณรัดดา เกื้อหนุน  ในวัย อายุ 52   ตัดสินใจศัลยกรรมดึงหน้า  และแม้ว่านี่จะเป็นการศัลยกรรมครั้งใหญ่ในชีวิต แต่เธอบอกว่ารู้สึกคุ้มค่ามากกับเงินที่เสียไป ครั้งแรกที่เห็นตัวเองหลังจากศัลยกรรม ทำให้ตนมีความสุข และตัวเองดูอายุลดลงไปอีก 20 ปี เหมือนเป็นรางวัลชีวิตที่เธอมีความสุขมากที่สุด 
 
 
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 ด้านคู่รักต่างสัญชาติ อย่างคุณพุทธชาติ และคุณวิลมาร์ อาร์โนล์ด บินตรงมาจากประเทศเยอรมนี  เพื่อมาทำศัลยกรรมดึงหน้าพร้อมกัน โดยการทำศัลยกรรมครั้งนี้ เป็นของขวัญแต่งงานครบรอบ 29 ปีของทั้งคู่
 
 
 เราไปฟังมุมมองจาก นายแพทย์ นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล  แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด โดยคุณหมอเผยว่า เทรนด์ความงามเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจมากขึ้นทุกปี ซึ่งมาจาก 2 สาเหตุหลักๆ คือมุมมองหรือค่านิยมที่มีต่อการทำศัลยกรรมความงามดีขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาไปทำศัลยกรรมมาส่วนใหญ่ต้องปกปิด แต่ปัจจุบันคนให้การยอมรับมากขึ้น อย่างที่สองคือสังคมมีมุมมองที่มีต่อคนทำศัลยกรรมเปลี่ยนไปเยอะเลย   เมื่อก่อนคนที่ไปทำศัลยกรรมมาจะถูก
 
 
 
 
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 เปิดมุมมองศัลยแพทย์ไทย ในวันที่การทำศัลยกรรมกลายเป็นทั้งโอกาสและรางวัลของชีวิต
 มองว่าเป็นคนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือไม่สวยไม่หล่อเลยต้องไปทำศัลยกรรม พอไปทำมาแล้วก็เลยไม่อยากให้ใครรู้ เพราะกลัวจะถูกมองว่าเป็นคนที่บกพร่อง หรือไม่สวยไม่หล่อ แต่สำหรับมุมมองคนทั่วไปในปัจจุบันที่มีต่อคนทำศัลยกรรม เขาจะมองว่ามันคือการดูแลตัวเอง ทำไปเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ ทำไปเพื่อส่งเสริมและเติมเต็มความสุขในชีวิต สำหรับบางคนเก็บเงินมาทำศัลยกรรมเพื่อเป็นรางวัลชีวิตกับให้กับตนเองก็มี เห็นได้ชัดว่ามุมมองเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมมีความเป็น Positive มากขึ้น
 
หลายคนเรียนจบมหาวิทยาลัย ทำงานมากมาย ประสบความสำเร็จ รู้สึกเหนื่อยมามาก แต่ไม่ได้ดูแลตนเองสักเท่าไร จึงอยากทำศัลยกรรมความงาม เพื่อถือเป็นรางวัลชีวิต ดังนั้นการทำศัลยกรรมก็สามารถเติมเต็มความสุขในชีวิตได้แล้ว ที่ผ่านมาคนไข้หลายคนเป็นคู่รักเช่นสามีจูงมือภรรยาเข้ามาทำศัลยกรรมพร้อมกันเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงาน  หรือแม้แต่คู่แม่ลูกที่เข้ามาศัลยกรรมดึงหน้าพร้อมกันอีกหลากหลายคู่  ไม่เท่านั้นเราพบว่าปัจจุบันการทำศัลยกรรมของคนไข้หลายคนนอกจากจะอยากสร้างโอกาสในหน้าที่การงานแล้วยังเป็นการให้รางวัลชีวิตตนเองในบั้นปลายอีกด้วย
 
นพ.ธนัญชัย ยังกล่าวอีกว่าในขณะที่เทคนิคทางการแพทย์สมัยใหม่ก็พัฒนาขึ้น จึงเปิดโอกาสให้คนทุกเพศทุกวัยเข้ารับการศัลยกรรมได้เปิดกว้างขึ้น เช่นศัลยกรรมดึงหน้า เมื่อก่อนคนที่จะดึงหน้าส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ  60-70 ปี  แต่ในปัจจุบันอายุประมาณ 30-40 ปีก็เริ่มมาทำแล้ว ซึ่งเป็นการดึงหน้าเฉพาะส่วนที่มีความหย่อนคล้อยเช่น  คนช่วงวัย 30-40 ปี อาจจะมีหางตาหรือคิ้วที่เริ่มตกไปตามวัย บางคนเริ่มปรากฏรอยตีนกา ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนอายุ 30-40 ปี หมอจะยังไม่แนะนำให้ดึงหน้า ตรงกันข้ามกับปัจจุบันด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ดีขึ้นทำให้เราสามารถดึงหน้าแยกส่วนได้ สามารถฉีดยาชาทำโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ใช้เวลาน้อยลงและตรงปัญหามากขึ้น เช่น คนวัย 30-40 ปีที่มาดึงเฉพาะส่วน ใช้เวลา 30 นาทีก็เสร็จแล้ว ถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ดูแลง่าย
 
 
 
ทั้งนี้คุณหมอธนัญชัยยังฝากทิ้งท้ายว่า การทำศัลยกรรมไม่ได้อยู่ที่ว่าใครมองเราอย่างไร แต่เราต่างหากที่มองตัวเองอย่างไร บางครั้งการทำศัลยกรรมเพียงเล็กน้อยแต่ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นและมีความสุข การทำศัลยกรรมก็เปรียบเสมือนรางวัลชีวิตเราแล้วเพราะความงามเป็นสิ่งที่คู่ควรกับทุกคน การเสริม เติมแต่ง เพื่อให้ได้เป็นคนที่สวยและดูดีที่สุดในแบบของตัวเอง จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความภูมิใจในตนเอง ทางศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมดจึงพัฒนาเทคนิคและวิธีการเพื่อมอบความสวยที่สมบูรณ์แบบอย่างยั่งยืนให้กับทุกคน
 
ปรึกษาเรื่องศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2867-0606 ต่อ 1200-1204

ข่าว/บทความล่าสุด

[ทั้งหมด]

เนื้อหามีผู้อ่านล่าสุด

ตรวจสอบรายชื่อแพทย์

ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ เลขที่ใบอนุญาต สถานพยาบาล

ติดตามข้อมูลข่าวสาร บริการ ด้านสุขภาพในทุกมิติ
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @healthserv

เพิ่มเพื่อน @healthserv
เพิ่มเพื่อน @healthserv
https://lin.ee/WSunSYA

โปรดเข้าใจว่า HealthServ.net ไม่ได้เป็นสถานพยาบาล ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการวิชาชีพด้านแพทย์ใดๆ จึงไม่สามารถให้คำปรึกษาในด้านการแพทย์ การรักษาใดๆ ได้ในทุกๆ กรณี - HealthServ.net เป็นสื่อที่เสนอเนื้อหาด้านสุขภาพ ได้แก่ บทความ ข่าวสาร รวมถึง ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแพคเกจ/บริการจาก รพ./สถานพยาบาล/ผู้ให้บริการต่างๆ ในประเทศไทย เท่านั้น รายละเอียดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับบริการ-ราคา-เงื่อนไข-วิธีการบริการ โปรดสอบถามไปยังรพ./สถานพยาบาล/ผู้ให้บริการนั้นๆ โดยตรง