ไว้ โดยกล่าวถึงการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโควิด ในสัปดาห์ที่ 19 คือระหว่างวันที่ 1-7 พฤษภาคม 66 ไว้ดังนี้
ผมคาดผิดว่าสถานการณ์โควิดจะเริ่มทรงตัวหรือลดลง แต่ตัวเลขสัปดาห์ล่าสุดที่ 19 ของปี (เผยโฉมออกมาช้าหน่อยเพราะคนทำงานคงรอลุ้นผลเลือกตั้ง) ยอดผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ
เพิ่มขึ้นกันยกแผงราว 40-50% จากสัปดาห์ที่ 18 ก่อนหน้า แถมด้วยยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นไป 120% นั่นหมายความว่าช่วงหลังสงกรานต์มาจนถึงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ขณะนี้มีผู้ติดเชื้ออาจสูงถึงวันละสองหรือสามหมื่นคน ยิ่งสัปดาห์นี้โรงเรียนก็ทยอยเปิดเทอมแล้ว มาช่วยกันควบคุมโรคให้แข็งขันขึ้นอีกหน่อย และเร่งไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามความจำเป็น
และล่าสุด วันที่
22 พฤษภาคม 2566 ท่านกล่าวถึงการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย ในสัปดาห์ที่ 20 (วันที่ 14 – 20 พฤษภาคม 2566) ไว้อย่างน่ากังวลว่า
ขอเตือนกันดังๆ อีกครั้งว่า อย่ามัวสนใจกันแต่เรื่องจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ศึกโควิดที่ทำท่าจะซบเซาไปแล้ว กำลังกลับมาโงหัวฟาดหางประเทศเราเป็นการใหญ่
ณ บ้านริมน้ำ (รพ.ศิริราช) ตัวเลขผู้ป่วยโควิดรอรับเข้าโรงพยาบาลกลับเพิ่มมากขึ้นใหม่ นอกจากจะเป็นผู้ใหญ่กลุ่มเปราะบางแล้ว เริ่มมีผู้ป่วยเด็กให้เห็นประปรายด้วย ในภาพรวมประเทศสัปดาห์ล่าสุดที่ 20 ของปี ยังมีการเพิ่มขึ้นไปต่อของยอดผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ โดยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ 19 ก่อนหน้าราว 12%, 26%, และ 39% ตามลำดับ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตซึ่งพุ่งตามหลังมาเพิ่มขึ้นไปถึง 200% ที่ต้องระวังคือ ยอดผู้ป่วยอาการหนักสะสมรวมเข้าใกล้แนวรับศักยภาพตึงมือภาคการแพทย์ที่ 500 คนแล้ว และผู้เสียชีวิตก็ใกล้จะถึงแนวรับที่ 10 คนต่อวันแล้วเช่นกัน
ปัจจัยหลักน่าจะมาจากผู้คนมีกิจกรรมนอกบ้านแบบไม่ระมัดระวังกันมากขึ้น ส่วนปัจจัยรองอาจมาจากสายพันธุ์ย่อยทั้งหลายที่สืบตระกูลของโอไมครอน XBB ซึ่งถือโอกาสรุกคืบเข้ายึดครองตลาดในช่วงที่ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติและจากวัคซีนของคนไทยเราเริ่มตกลง แถมยังเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองกันอย่างหนักทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง ดังนั้นการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมากในที่สาธารณะช่วงนี้จึงควรหลีกเลี่ยง และขอให้เคร่งครัดการใส่หน้ากากในพื้นที่ที่การระบายอากาศไม่ดี