11 ม.ค. 66 กรุงเทพฯ – นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ผู้ประกอบธุรกิจบริหารโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนาม ‘เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์’ กล่าวถึงแผนการให้บริการสาธารณสุข หลังจีนเปิดประเทศ พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในเพื่อนบ้านกัมพูชา
พร้อมบริการนักท่องเที่ยวจีน
หลังจากเมื่อจีนเปิดประเทศ เมื่อ 8 มกราคม และนักท่องเที่ยวจีนชุดแรกได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 9 มกราคม 66 ที่ผ่านมา กอปรกับ การที่ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศยกเลิกข้อกำหนด การวัคซีน 2 เข็ม ทำให้ไม่เป็นข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศไทยอีกต่อไปนั้น โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิมากที่สุด ได้ปรับแผนการให้บริการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวจีน ดังนี้
- ประกาศเปิดให้บริการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งแบบปกติ และแบบ Express
- บริการแบบ Express ผลได้ภายใน 2 ชั่วโมง
- มีการจัดตั้งทีมล่ามภาษาจีน เพื่อให้บริการในศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services)
- พร้อมให้บริการรองรับกรณีผู้ป่วยชาวจีนเข้ารับการรักษาโควิด-19
- ตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี PCR ในเที่ยวเดินทางขากลับ ตามข้อกำหนดของทางการจีน
“โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เป็น 1 ในโรงพยาบาลที่ทางสถานทูตจีนวางใจ มีการปรึกษา ติดตามคนไข้อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญ เรามีเครือข่ายและคู่สัญญาประกันและความช่วยเหลือต่างประเทศ พร้อมประสานเรื่องการรักษาและการดูแลสินไหมผ่าน Medical Assistant Company ทั้งของจีนและระดับนานาชาติ และมีคู่สัญญากับโรงแรมทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล หากเจ็บป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถจัดความช่วยเหลือไปได้ทันที รวมถึงจัดหาสถานที่แยกกักตัวกรณีที่ติดเชื้อในรูปแบบ Hotel Isolation หรือสามารถประสานรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ ขึ้นกับความประสงค์ของผู้ป่วย” คุณธานีกล่าว
ตั้งศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ 3 จังหวัด
ในช่วงไตรมาสที่ 3/65 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดให้บริการศูนย์ผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) ขึ้นในโรงพยาบาลในเครือ 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ , โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี และ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ
สำหรับ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ถือเป็นโรงพยาบาลหลักในยุทธศาสตร์ ในการต้อนรับและให้บริการชาวต่างชาติทั้งรูปแบบ Fly-in และ Drive-in
ศูนย์ทั้ง 3 แห่ง ใน 3 จังหวัด เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยต่างชาติ เพิ่มมากขึ้น ในทุกช่องทาง โดยตั้งเป้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 80% เป็น 100%
ผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่ม CLMV เติบโต
ส่วนอัตราการเติบโตผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะชาวกัมพูชา รวมทั้งนักธุรกิจจีนที่ทำงานอยู่ในแถบประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามารับการรักษาในรูปแบบ Drive-in ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา ทางเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ได้มุ่งขยายความร่วมมือการพัฒนาคุณภาพภาพระหว่างประเทศเพื่อส่งต่อผู้ป่วยจากกัมพูชา มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี และโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ โดยร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับหน่วยงาน โรงพยาบาล คลินิก และหอการค้าจังหวัดเสียมเรียบ-อุดรมีชัย เพื่อสร้างเครือข่ายส่งต่อผู้ป่วยมอบสิทธิ์การรักษาเทียบเท่าคนไทย พร้อมบริการการแพทย์ครบวงจรทั้งศูนย์ตรวจสุขภาพ ผ่าตัด รักษามะเร็งและให้เคมีบำบัด โดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง และมีแผนงานร่วมมือพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสุขภาพระหว่างไทย-กัมพูชา
“เราตั้งเป้าให้ ‘กลุ่มพริ้นซ์อีสาน’ ให้เป็นอีสานเมดิคัลฮับของชาวอีสาน ชาวลาวและกัมพูชา ซึ่งปัจจุบัน มีโรงพยาบาลในเครือของพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์รวม 3 แห่ง ประกอบด้วย รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษ, รพ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี และพริ้นซ์ สกลนคร ที่เตรียมเปิดให้บริการ ปี 2566 และมีแผนขยายรพ.เพิ่มอีก เพื่อมุ่งขยายบริการสาธารณสุขและให้บริการการแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่ขาดแคลน โดยเฉพาะโรคมะเร็งและการรักษาโดยให้เคมีบำบัด โรคทางจักษุ กระดูกและข้อ ฯลฯ เพื่อการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างเท่าเทียม ตามปณิธานขององค์กรที่มุ่งสร้างคนที่มีจิตใจของผู้ให้”, นายธานีกล่าว
สำหรับศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) เพื่ออำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้รับบริการชาวต่างชาติ ฯลฯ เกี่ยวกับแผนการรักษา การเดินทาง ค่าใช้จ่าย ภาษาและวัฒนธรรม ฯลฯ ทำให้สามารถดูแลผู้ป่วยร่วมกันตั้งแต่การคัดกรอง วินิจฉัยโรคที่แม่นยำ เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ตลอดจนการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประโยชน์ในการรักษาสูงสุด และยังมีการติดตามอาการเมื่อผู้ป่วยกลับบ้านอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลสามารถดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ https://inter.princhealth.com/