ทางด้าน นายวรวุฒิ กุลแก้ว เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวเพิ่มเติมด้านความพร้อมทางวิชาการของมูลนิธิทันตนวัตกรรม ที่ดำเนินการร่วมกับกรมอนามัยในการพัฒนาและกระจายผลิตภัณฑ์สู่ประชาชน ว่า น้ำยาบ้วนปากผสมสารสกัดจากหญ้าแฝก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มูลนิธิทันตนวัตกรรม ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพัฒนาวิธีการสกัดสารจากหญ้าแฝก โดยผ่านการศึกษา วิจัย และพัฒนาเป็นระยะเวลา 3 ปี จนได้สูตรต้นแบบผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปาก โดยหญ้าแฝก ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ กระบวนการปลูก และอายุการเก็บเกี่ยว แล้วจึงนำสารสกัดที่ได้ไปเป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำยาบ้วนปากสูตรต้นแบบนี้
“ทั้งนี้ หลังจากผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจสอบคุณภาพในด้านต่างๆ จึงดำเนินการผลิตในระดับอุตสาหกรรม
ในโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐาน ISO 22716 รวมทั้ง GMP cosmetic และได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. ภายใต้ชื่อ ผลิตภัณฑ์ ดีไอเอฟ ดอยตุง เวติเวอร์ รีเฟรชชิ่ง เมาท์วอช ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิทันตนวัตกรรมฯ มีคุณภาพและสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์พร้อมส่งผ่านเครือข่ายของกรมอนามัยสู่ประชาชน” เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม กล่าว
ทางด้าน นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับน้ำยาบ้วนปากผสม
สารสกัดหญ้าแฝก ที่กรมอนามัยได้รับมา จำนวน 9,000 ขวด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์คุณภาพถึงมือประชาชน กรมอนามัยจะดำเนินการกระจายน้ำยาบ้วนปาก ผสมสารสกัดหญ้าแฝก ผ่านศูนย์อนามัยใน 13 เขตสุขภาพ ไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ ในชมรมผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ รวมถึงผู้สูงอายุซึ่งมารับบริการที่หน่วยบริการในสังกัดของกรมอนามัยต่อไป