ข้อมูลบริการสุขภาพของไทย

กฏหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 หลังจากมีการเสนอเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ครอบคลุมไม่เพียงสารสกัด CBD แต่หมายความรวมถึง กัญชา ด้วย 

 

กฏหมายที่มีโทษรุนแรงมากฉบับนี้ มอง CBD มีความร้ายแรงระดับเดียวกับเฮโรอิน และ เฟนตานิล (fentanyl) แม้ว่า CBD จะไม่ใช่สารออกฤทธิ์หรือสารเมาแบบชนิด THC ที่พบในพืชกลุ่มกัญชา กัญชง ก็ตาม ซึ่งในหลายประเทศทั่วโลก ให้การยอมรับ CBD ในทางการแพทย์ และนำมาใช้ในยาหลายขนาน

ข้อกฏหมายนี้ ครอบคลุมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกจากฮ่องกงด้วย จะมีโทษหากพบว่ามีสินค้าเหล่านี้นำเข้ามา

 

การประกาศใช้กฏหมายฉบับนี้ ถือว่าปิดตายอุตสาหกรรม CBD ในฮ่องกงโดยสิ้นเชิงและทันที จากที่เพียงสองปีก่อนหน้านี้ ธุรกิจอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ CBD บูมระเบิดในฮ่องกง  สินค้าและบริการมากมาย ต่างมี CBD เป็นจุดเด่นจุดขาย พบหาได้ ตั้งแต่ร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านป๊อปอัพสโตร์ ตลาดนัดกรีน ห้างสรรพสินค้า และร้านสินค้าอุปโภคบริโภค กับสินค้า CBD นานาชนิด ตั้งแต่แชมพู เครื่องดื่ม เครื่องสำองค์ ลูกอม อาหารสัตว์ ฯลฯ  
 

ไม่มีใครอยากตกขบวนเทรนด์ใหม่มูลหลายร้อยล้าน และดูมีอนาคตไกลไปได้

 

ผู้ประกอบการหลายราย แสดงความผิดหวังต่อกฏหมายนี้ และชี้ว่าทำให้พลาดโอกาสในกระแสโลกไปอย่างไม่ให้อภัย ทางการฮ่องกงมีระยะเปลี่ยนผ่านให้กับธุรกิจได้ปรับตัว ขณะที่อีกด้าน ทางการเร่งตรวจยึดและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ CBD ในร้านค้า ร้านอาหารอย่างหนักตั้งแต่ปี 2019 มีตัวอย่างกว่า 3,800 ตัวอย่าง ที่มีการปนเปื้อนสารสกัด THC ที่เป็นสารออกฤทธิ์มึนเมา และจำนวนไม่น้อย ไม่ระบุปริมาณ THC บนฉลากอย่างชัดเจน 

 

ทางการระบุว่า มาตรการเข้มข้นถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องการสาธารณสุขของประชาชน และไม่ประณีประนอมกับยาเสพติดในทุกรูปแบบ การควบคุม CBD ด้วยจึงจำเป็นไม่แพ้กัน 

 

การแบน CBD ในฮ่องกงได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสังคม การศึกษา การแพทย์และบริการชุมชน อย่างกว้างขวาง ด้วยความหวังจะให้ ฮ่องกงเป็นดินแดนปลอดยาเสพติดอย่างแท้จริง

 

 

 

 

ธุรกิจเจ็บหนัก ต้องปรับตัว