หลังจากที่ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ รับมอบยาแพกซ์โลวิดที่จะได้จัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข และพร้อมกระจายยาไปยังโรงพยาบาลในสังกัด กทม. เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางและมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการรักษาตัวในโรงพยาบาล ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้ยาต้านไวรัสรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาเรมเดซิเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์
ยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) เป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรง สามารถลดความเสี่ยงการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิตของผู้ใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้ถึง 88% โดยผู้ป่วยโควิด-19 ที่เหมาะกับยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) คือ ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ผู้ที่มีภูมิต้านทานร่างกายต่ำ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยโรคมะเร็ง และผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับเพียง 1 เข็ม
นอกจากนี้ สำนักการแพทย์ ได้เน้นย้ำการสร้างความเข้าใจแนวทางปฏิบัติในการจ่ายยาต้านไวรัสรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ชนิดต่างๆ ให้กับบุคลากรของโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ให้เป็นไปตามคำแนะนำและข้อบ่งชี้ในการใช้ยาที่กรมการแพทย์ สธ.กำหนด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งดำเนินแนวทางการรักษา คือ
- ผู้ป่วยต้องรับประทานยาครั้งละ 3 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
- ห้ามใช้กับผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ผู้ที่การทำงานของตับหรือไตบกพร่อง
- การเลือกใช้ยาแพกซ์โลวิดจะให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ซึ่งไม่จำเป็นต้องรับยาทุกคน
- กลุ่มอาการดีไม่มีความเสี่ยงพิจารณาให้ยาตามอาการ เช่น ฟ้าทะลายโจร หรือ ฟาวิพิราเวียร์