ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมไปแล้ว

ยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมไปแล้ว  HealthServ.net

20 มี.ค.2566 เวลา 11.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี แถลงยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมในโรงงานพื้นที่กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นสั่งปิดพื้นที่-หยุดงานทันที เตรียมตรวจเลือดกลุ่มเสี่ยง พนักงานอย่างน้อย 70 คน และชาวบ้านใกล้เคียง

ยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมไปแล้ว  ThumbMobile HealthServ.net
ยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมไปแล้ว  HealthServ
วันนี้ (20 มี.ค.2566) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงความคืบหน้ากรณีพบวัตถุกัมมันตรังสี "ซีเซียม-137" ที่หายไปโรงไฟฟ้าในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี โดยพบอยู่ที่โรงงานหลอมโลหะแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี
 
นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เล่าย้อนว่าได้หาภายในโรงงาน 3-4 รอบ และขยายวงออกไปนอกโรงงานรัศมี 2 กม. ใช้การเดินเท้าจากเจ้าหน้าที่โรงงานและท้องถิ่น ต่อมาได้ค้นหาตามพื้นที่เป้าหมาย ร้านขายของเก่าและร้านคู่ค้าของโรงงาน ทั้งพนมสารคามและจังหวัดใกล้เคียง โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ
 
ทั้งนี้ ได้แจ้งไปยังประชาชนช่วยกันสอดส่อง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว นครราชสีมา นครนายก โดยได้มีการค้นหาตลอดทั้ง 7 วัน และรายงานสถานการณ์ทุกวัน ซึ่งเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ไปดูโรงงานหลอมเหล็กขนาดใหญ่


ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.2566) ช่วงเช้า ตรวจพบสารซีเซียมในกระเป๋าบิ๊กแบ็กขนาดใหญ่ โรงงานในเขต อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจดูพบว่าเครื่องมือขึ้นประมาณ 10 จึงวิเคราะห์ว่าน่าจะใช่ จากนั้นช่วงเย็นมาตรวจวัดอีกที ขึ้นค่าเป็น 10 เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าสารซีเซียม 137 ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในธรรมชาติ แต่เกิดจากมนุษย์ จึงได้ย้อนกลับไปดูว่ากระเป๋าบิ๊กแบ็กเป็นส่วนที่เหลือจากการผลิตเหล็ก เทเข้าไปในเตาหลอม ความร้อน 1,200 องศาฯ เมื่อผลิตจะมีฝุ่นละอองแดง อยู่ภายในระบบปิด เมื่อเป็นฝุ่นออกมาจะมีฟิลเตอร์ด้านบนกันไว้ และติดอยู่บริเวณนั้น เมื่อเย็นแล้วจะตกเป็นผลึกเล็ก ๆ โดยถูกเก็บไว้ที่นี่
 

เมื่อยืนยันชัดเจนแล้ว จึงปิดพื้นที่ทันทีและให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณรอบข้าง บริเวณแนวกระเป๋าบิ๊กแบ็ก พบว่าขึ้น แต่เมื่อออกมา 10 กว่าเมตร ไม่พบค่าของสารขึ้น
 
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ด้วยความเป็นห่วงประชาชน และพนักงานในโรงงาน 70 กว่าคน จึงได้ให้พนักงานหยุดงานไปก่อน และให้เจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ แพทย์ พยาบาล เช็กประวัติและดูอาการ โดยเตรียมตรวจเลือดในวันนี้ เบื้องต้นโรงงานอยู่ไกลจากชุมชนพอสมควร


ขณะที่ นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า โรงงานหลอมโลหะหรือหล่อเหล็ก มีการใช้อุณหภูมิถึง 1,000 องศาเซลเซียล เพื่อให้เหล็กหลอมละลายเป็นของเหลว และทำเป็นระบบปิดทั้งหมด ฉะนั้นสารซีเซียม เมื่อเจออุณหภูมิเพียง 600 องศาเซลเซียล จึงระเหยไปกับเขม่า เมื่อเหล็กหลอมถูกรีดออกมาเป็นแท่งเป็นเส้นแล้ว จึงไม่พบในเนื้อเหล็กที่รีดออกมา แต่ในเตายังมีฝุ่นแดงจากการหลอมเหล็ก
 

ทั้งเชื่อว่าซีเซียมหายออกมาจากบริษัทโดยมนุษย์ไม่ใช่เกิดจากการหล่นหาย เนื่องจากบริษัทมีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี
 
ส่วนฝุ่นแดงปนเปื้อนซีเซียม 24 ตัน ประมาณ 24 กระสอบ โดยมี 1 ถุง ถูกนำไปถมที่ดินหลังโรงหลอม ก็ให้เจ้าหน้าที่ไปขุดดินทั้งหมดแล้วนำดินที่ป่นเปื้อนมาใส่กระสอบเช่นเดิมแล้ว และปิดล้อมที่ดินดังกล่าวไว้ จากนี้ไปเป็นกระบวนการสอบสวนการสูญหาย จะพยายามสืบสวนว่า คนที่นำไปเอาอุปกรณ์ไปไว้ที่ไหน เอามาเข้าสู่โรงหลอมได้อย่างไร

 

 


 

ซีเซียม 137 ไม่ฟุ้งกระจายในสภาพแวดล้อม ยืนยันไม่กระทบ ปชช.
 

นายกิตติ์กวิน อรามรุญ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี เปิดเผยว่า จากลงพื้นที่ตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือในการตรวจสอบวัดแผ่รังสีบริเวณรอบๆ โรงงานดังกล่าวรัศมี 5 กิโลเมตร มีการเก็บตัวอย่างดิน น้ำ และอากาศ ไปตรวจสอบไม่พบการฟุ้งกระจาย หรือปนเปื้อนของสารซีเซียม 137 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม 
 
ทั้งนี้ยืนยันว่า วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ในโรงงานดังกล่าวถูกควบคุมอยู่ในพื้นที่จำกัด และจากการตรวจพนักงานที่ทำงานในโรงงานไม่พบการเปรอะเปื้อนของสารซีเซียม 137 เช่นกัน 


 
 

ปส.แจ้งความ-ตร.ไล่กล้องวงจรปิดหาเบาะแส
 

ขณะที่ พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ได้รับแจ้งความเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2566 เวลาประมาณ 12.00 น. ตำรวจได้จัดชุดสืบสวนออกไปยังบริษัทที่อาจอนุมานได้ว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ซึ่งมาแจ้งว่า วัตถุชิ้นนี้หายไป บริษัทเป็นที่ปิด ตำรวจจะเข้าก็เข้าไม่ได้ ต้องประสานงาน แม้แต่ผู้ว่าฯ หรืออธิบดีไปก็ยังเข้าไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องภายในบริษัท
 
สำหรับคำถามว่า วัตถุชิ้นนี้ออกไปสู่ด้านนอกได้อย่างไร ขณะนี้ตำรวจไล่กล้องวงจรปิด และขอความร่วมมือบริษัทขอกล้องตรงจุดเกิดเหตุ เพื่อวิเคราะห์ แต่อาจเพราะกล้องติดมานานแล้ว บางตัวเก็บภาพได้ บางตัวเก็บไม่ได้ ในขั้นตอนนี้กำลังสืบสวนและพิสูจน์ทราบว่าออกไปได้อย่างไร ใครเอาออกไป
 
 
ล่าสุด สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ป.ส.) ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแล้ว หลังจากนี้จะสอบสวนทางคดีอาญาต่อไป เรื่องผู้ครอบครองวัตถุที่หายไปแล้วไม่แจ้งโดยพลัน ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2562 มาตรา 100 โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
 
ส่วนการสืบสวนว่าของออกไปได้อย่างไร ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าใช่วัตถุชิ้นนี้หรือไม่ เพราะของชิ้นนี้อาจจะถูกซีล หรือถูกปิดแล้วค้างอยู่ในบริษัทก็ได้ แต่จากที่สืบทราบของชิ้นนี้ในประเทศไทย ต้องขึ้นทะเบียนกับทาง ป.ส.ทั้งหมด และมีชิ้นเดียวที่หายไป จึงอนุมานว่าอาจจะใช่ก็ได้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ต้องถูกสอบสวนหมด



 

เร่งตรวจร่างกาย 70 พนักงานกลุ่มเสี่ยงหาสารซีเซียม 137
 

นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า หลังจากได้รับจากว่าซีเซียม 137 ได้หายไป ก็ได้มีการขอข้อมูล 1 เดือนย้อนหลัง ไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งใน จ.ปราจีนบุรี เพื่อทำการประเมินว่ามีผู้ป่วยเข้าข่ายหรือไม่ โดยหากผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสารซีเซียม 137 จะดีอาการดังนี้
 
1.ระบบผิวหนังเป็นแผล
2.ระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว
3.ระบบเลือดไหลเวียนโลหิต และเข้าไขกระดูกอาจเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้
4.ระบบประสาท ชัก เกร็ง อาจเสียชีวิตได้
 
ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบผู้ป่วยที่เข้าข่ายแต่อย่างใด
 
ทั้งนี้เมื่อวานได้ลงพื้นที่ไปยังโรงงานต้นเรื่อง ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนพอสมควร และโรงงานเป็นสถานที่ปิด โดยโรงงานดังกล่าวได้มีพนักงาน 70 คน แบ่งเป็นคนต่างด้าว 60 คน และคนไทย 10 คน เบื้องต้นให้สันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด และจะมีการตรวจสุขภาพพนักงานทั้งหมด และอาจจะมีการเฝ้าระวังเป็นระยะ ส่วนญาติต้องทำการประเมินอีกครั้งว่าจะปนเปื้อนไปจากเสื้อผ้าได้หรือไม่
 
ส่วนในภาพรวมจะทำการประเมินชุมชนรอบข้างว่ามีความเสี่ยงหรือข้อกังวลอะไรหรือไม่ และถ้าประชาชนกังวลเจ้าหน้าที่ก็จะลงพื้นที่ไปตรวจสุขภาพให้
 
นอกจากนี้ ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านสุขภาพ ที่ สสจ.ปราจีนบุรี เพื่อประเมินสถานการณ์ และทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งกำชับให้ดูแลด้านสุขภาพประชาชนในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เต็มที่
 

 
ThaiPBS
20 มีนาคม 2566

 

ยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมไปแล้ว  HealthServ
 

สรุปจากสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว หลังการแถลงพบซีเซียม


สำนักงานปรมาณูฯ ยืนยัน "ฝุ่นแดงปนเปื้อนซีเซียม-137" ในโรงหลอมเหล็กในกบินทร์บุรี  ตรวจสอบไม่มีการรั่วไหลออกไปภายนอก ยันไม่ฟุ้งกระจาย ตรวจรอบโรงหลอม รัศมี 5 กม. ‘ดิน-น้ำ-อากาศ-คน’ ไม่พบปนเปื้อน
เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ร่วมแถลงกับผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ยืนยันพบ "ฝุ่นแดงปนเปื้อนซีเซียม-137" ในโรงหลอมเหล็กแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี ขณะนี้ ปิดกั้นโรงงาน-ให้คนงานอยู่ในโรงงาน ยืนยันจากการตรวจสอบ ไม่มีการรั่วไหลออกไปภายนอก
 
นายเพิ่มสุข กล่าวว่า "ฝุ่นแดงปนเปื้อนซีเซียม" ซึ่งเกิดจากการถลุงเหล็กที่พบในโรงหลอม ซึ่งเป็นระบบปิด ทั้งนี้ โรงหลอมเหล็ก ถ้ามีมาตรฐานสูง จะมีตัวปิดมิดชิด ซึ่งจะได้ตรวจสอบให้ละเอียดว่ามีครบถ้วนหรือไม่อย่างไร  
 
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการ "ล้อมคอก-ล้อมรั้ว" ทั้งหมดแล้ว โดยขอให้คนงานอยู่ทำงานต่อในโรงงาน และปิดกั้นพื้นที่ทั้งหมดแล้ว
 
นายเพิ่มสุข กล่าวว่า ดีใจที่เจอ เจอย่อมดีกว่าไม่เจอ แต่ยังไม่ได้สรุปว่า ฝุ่นแดงปนเปื้อนซีเซียม-137 มาจากอุปกรณ์ที่หายไปที่โรงงานไฟฟ้าของบริษัทฯ แห่งหนึ่งหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการ ตำรวจจะแกะรอยว่าที่มา มาจากตัวอุปกรณ์ที่หายไปจริงหรือไม่ ทั้งนี้ สารซีเซียม-137 ไม่สามารถเกิดขึ้นเอง จึงมีความเป็นไปได้ การตรวจวัดสารก็พบค่าสูง
 
"ต่อไปนี้จะหาง่ายแล้ว ถึงตอนนี้ น่าจะใช่ตัวที่หายไป 50-50 เราจะย้อนกลับไป ต้องไปหาว่าใครมาส่งโรงเล็ก เอามาจากไหน อย่างไร"
 
เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ยืนยันว่า ได้มีการตรวจวัดพื้นที่โดยรอบแล้ว ไม่มีการฟุ้งกระจายออกไปนอกพื้นที่ ฝุ่นแดงปนเปื้อนยังจำกัดอยู่ในโรงหลอมเหล็ก ซึ่งการหลอมล็อตล่าสุด ที่ปกติจะหลอมในวันเสาร์-อาทิตย์ จำนวน 24 กระสอบ 
 
อย่างไรก็ตาม มีการเอาฝุ่นแดงจากการหลอมหลังสุด ไปถมที่แถวหลังโรงงาน 1 กระสอบ ซึ่งได้ดำเนินการขุดล้อมตามหลักวิชาการ เอาใส่กระสอบ กลับเข้ามาเก็บไว้แล้วในโรงงานเรียบร้อยแล้ว 
 
เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ยังกล่าวถึงกรณีช่อง 3 นำเสนอข่าวอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคม มีการส่งฝุ่นเหล็กไปโรงงานรีไซเคิลที่ชลบุรี (ความจริงคือระยอง) ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้ว ฝุ่นแดงล็อตหรือชุดที่ส่งไปไม่พบการปนเปื้อนซีเซียมแต่อย่างใด 
 
"ข่าวจริงวันนี้ คือ โรงงานหลอมที่เราเจอซีเซียม เราได้มีการปิดล้อม เรารู้จำนวน ถ่ายภาพ รักษาความปลอดภัยทั้งหมดแล้ว หน้าโรงงานก็ไม่มีสาร ใช้เครื่องมือราคาสูง สมรรถนะสูง ตรวจวัดหมดแล้ว" 
 
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ตอบคำถามเรื่องการฟุ้งกระจาย โดยยืนยันหนักแน่นว่า เครืองมือตรวจวัด ซึ่งสามารถระบุชนิดของสารได้ พบการปนเปื้อนซีเซียม ในฝุ่นแดงจากการผลิตโลหะเท่านั้น ตัวโลหะที่เป็นผลผลิต ก็ตรวจไม่พบการปนเปื้อนแต่อย่างใด
 
"ยืนยันว่า ได้ใช้เครื่องดูดอากาศ รอบโรงงานรัศมี 5 กิโลเมตรมาตรวจสอบ เก็บดิน เก็บน้ำ เก็บอากาศ มาตรวจสอบ ไม่พบปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อมแต่อย่าใด"
 
สรุปว่า "ซีเซียม-137" ที่ปนเปื้อน ถูกควบคุม และจำกัด อยู่ในพื้นที่เฉพาะแล้ว ไม่มีการเล็ดรอดออกไป เมื่อเช้านี้ก็ยังตรวจวัดระดับรังสีรอบโรงงาน  ตรวจภายนอกร่างกายของคนงาน ตรวจเสื้อผ้า ก็ไม่พบการปนเปื้อนใดๆ ตรงนี้เป็นข้อมูลวิชาการยืนยันได้  เจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ควบคุมสถานการณ์และควบคุมอยู่ในเฉพาะพื้นที่ฝุ่นแดงที่ปนเปื้อนซีเซียมเท่านั้น ไม่มีการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อม ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด