นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กัญชา เป็นพืชสกุล Cannabis มีสารประกอบแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ซึ่งมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้
ระบบการทำงานของ cannabinoid ในผิวหนัง มีความเกี่ยวข้องกับรักษาสภาวะสมดุลของผิวหนัง ความแข็งแรงของผิวหนัง รวมถึงการซ่อมแซมตนเองของผิวหนัง โดยสารออกฤทธิ์ที่สำคัญในกัญชาคือ
1. Delta-9-Tetrahydrocannabinol (THC) สาร THC ในกัญชามีผลต่อจิตประสาท แต่ก็มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับ ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และกระตุ้นให้อยากอาหาร
2. Cannabidiol (CBD) สาร CBD ในกัญชามีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ลดการชักเกร็ง ช่วยให้สงบ ผ่อนคลาย และมีคุณสมบัติยังยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกหลายชนิดในหลอดทดลอง
3. Terpenes (สารเทอร์ปีน) สารเทอร์ปีนในกัญชาจะให้กลิ่นและรสชาติเฉพาะของกัญชา มีคุณสมบัติช่วยในการบำบัดรักษาโรค และยังเป็นตัวเสริมฤทธิ์โดยทำงานร่วมกับสารแคนนาบินอยด์
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสรรพคุณในการต้านการอักเสบ (anti-inflammation) ของสารประกอบในกัญชา ทำให้เริ่มมีความสนใจในการนำกัญชามารักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง สิว โรคมะเร็งผิวหนังบางชนิดโรคผมร่วงบางชนิด เป็นต้น
มีการค้นพบว่าการทำงานของ cannabinoid ในผิวหนัง มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการรักษาสภาวะสมดุลของผิวหนัง ความแข็งแรงของผิวหนัง ตลอดจนการซ่อมแซมตนเองของผิวหนัง มีฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกัน (immunomodulatory effects) ตลอดจนฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant properties)
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่สนับสนุน ว่าสารประกอบในกัญชาสามารถกระตุ้น CB1 และ CB2 receptor ที่อยู่บริเวณเส้นประสาทรับความรู้สึกของผิวหนัง และที่เซลล์ผิวหนังสามารถช่วยลดอาการคันได้เป็นอย่างดี
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น สถาบันโรคผิวหนังจึงเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา และพัฒนากัญชาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาโรคผิวหนังต่างๆ และนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเวชสำอาง โดยจะเลือกใช้เฉพาะสาร cannabidiol (CBD) และ terpenes เนื่องจากไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท จึงมีความปลอดภัยในการใช้มากกว่า THC วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับอาการแต่ละโรค โดยส่วนใหญ่ใช้เป็นยาทา และอาจมีการรับประทาน หรือหยดน้ำมัน CBD ร่วมด้วยในการรักษา
สารสกัดกัญชานอกจากจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคทางผิวหนังแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เวชสำอางได้