การใช้กัญชาทางการแพทย์ ณ ปัจจุบัน
คำถาม: ระบบ ทางการ และระบบ ชาวบ้าน?
ระบบไหนตอบโจทย์ ที่ให้ “คนไทยดูแลตนเองได้”
ช่วยกันตอบ
คำถาม:ความเป็นจริงผู้ใช้ คือใคร?
คือคนป่วย คนยากไร้ คนที่มีปัญหา แม้กระทั่ง ใช้ในปัญหาชีวิตประจำวัน ปวดเมื่อย ปวดข้อ นอนไม่หลับ หดหู่
คือ หมอ พยาบาล เป็นต้น ที่ต้องสามารถเลือกที่จะใช้ ผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ ไม่ใช่กำหนดของในระบบ (ที่ไม่ใช่ ของกรมการแพทย์แผนไทย ที่สูตรตามวิถีชาวบ้าน) ของในระบบขณะนี้ ดำเนินคามความล้มเหลวของ จากค่างประเทศ ที่ทำเป็นสารเดี่ยวๆ และพิสูจน์แล้วไม่ว่าจากผู้ป่วยเองในประเทศ และต่างประเทศ จากข้อมูลวิทยาศาสตร์ พื้นฐาน
คำถาม:การออกกฎระเบียบทั้ง ดอก ใบ ต้น ราก เป็นไปตามอะไร?
ตาม การที่คิดจะป้องกันอันตรายค่อผู้บริโภค เช่นนั้นหรือ ?
แท้จริงแล้ว เราอาจจะไม่ทราบข้อมูล หรือความเป็นจริง ที่ใช้ขณะนี้ วิถึชุมชน ทราบการใช้ ใบอ่อน แก่ ตัน ช่อดอก ราก ด้วยการใช้สด สก้ด น้ำร้อน สกัดร้อนด้วยวิธีต่างๆ หรือสกัดเย็น
การออกกฎระเบียบเพราะต้องการป้องกันอันตรายจากกัญชา อาจต้องคิดถึงอีกมุมของการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุด
การห้ามแม้กระทั่งไม่ให้ใช้ใบแก่ ใบอ่อนมาใส่อาหาร มาต้มเป็นน้ำชาโดยถือเป็นเรื่องห้ามกระทำ อาจจะต้องทบทวนกฎหมายตั้งแต่ปี 2522 ว่าบรรพบุรุษปู่ ย่าตาทวดดำรงชีวิตมาอย่างไร และชุมชนทั้งชนบทและในเมืองที่ไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากมาย ประคองตัว ประคองใจให้มีคุณภาพชีวิตอยู่ได้ แม้กระทั่งมีอายุมากๆ มีเรื่องปวดข้อ ปวดหลัง มีเรื่องของการนอนไม่หลับรุมเร้า สามารถใช้ประโยชน์ได้แม้กระทั่งจากใบกัญชาเหล่านี้
เราจะใจร้ายให้ยาแก้ปวด ที่ทราบกันดีแล้วว่ามีผลต่อเส้นเลือดหัวใจเส้นเลือดสมองมีผลต่อกระเพาะและทำให้ไตวายเช่นนั้นหรือ
เรายังคงจะให้ยาแก้ปวดที่เข้าอนุพันธ์ของฝิ่นและมอร์ฟีน อีกกระนั้นหรือ
คำถาม: การปราบปรามขั้นเด็ดขาด ถ้าไม่ได้ใช้ทางการแพทย์ ?
ขับรถแล้วสูบกัญชา เมาแล้วขับ ก็ควรโดนลงโทษเหมือนกับเมาเหล้าแล้วขับ แต่ถ้าชาวบ้านจะสูบกัญชาในบ้าน ตำรวจจะมีสิทธิถีบประตูบ้านเข้าไปหรือไม่
เขาสูบกัญชาไม่ได้เดือดร้อนเสียงดังกับใคร ถ้าบุหรี่กับสุรามันมีผลร้ายกับสุขภาพคนมากกว่ากัญชา ทำไมถึงขายได้ ขณะที่กัญชาโดนค่าปรับมากถึงสองแสนบาท สิ่งที่เป็นอยู่วันนี้มันไม่ใช่ไม่สมเหตุสมผล แต่มันไม่มีเหตุผล
ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
Thiravat Hemachudha
2 พย 2563