ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

กินเร็วเกินไปทำให้กินมากขึ้น เสี่ยงโรคอ้วนและโรคเรื้อรัง

กินเร็วเกินไปทำให้กินมากขึ้น เสี่ยงโรคอ้วนและโรคเรื้อรัง

กินเร็วเกินไปทำให้กินมากขึ้น เสี่ยงโรคอ้วนและโรคเรื้อรัง

       สถานการณ์ปัจจุบันที่มีข่าวการแพร่ระบาดเรื่องโควิด-19 หรือ ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 จนทำให้หลายคนเกิดภาวะความเครียดวิตกกังวล และต้องหันไปผ่อนคลายความเครียด ความกังวลจากการรับข่าวสารต่าง ๆ ด้วยการกิน  ไม่ว่าจะกินจุกจิก หรือกินมื้อหนัก เช่น กินบุฟเฟ่ต์ หมูกระทะที่จำกัดเวลา ทำให้ต้องกินเร็วและกินมากเกินไป (Overeating) ประกอบกับสังคมปัจจุบันการทำกิจกรรมต่าง ๆ ต้องอาศัยความเร่งรีบ ขณะที่การกินอาหารน่าจะเป็นเวลาที่ควรผ่อนคลายและมีความสุข ผลเสียของการกินเร็วทำให้ได้รับปริมาณอาหารมากเกินไป เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุก เสียด อาหารไม่ย่อยแล้ว ยังเสี่ยงเกิดโรคอ้วนและโรคเรื้อรังตามมา ดังตารางเปรียบเทียบ ข้อดีข้อเสียของการกินเร็ว และ การกินช้า ดังนี้

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการกินเร็วและการกินช้าที่เกิดกับร่างกาย

การกินเร็ว

ข้อเสีย
  1. เกิดโรคอ้วนลงพุง (Central Obesity) Metabolic Syndromeเกิดความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันสูง
  2. เสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจขาดเลือดและโรคหัวใจมากกว่าการสูบบุหรี่
  3. มีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าคนที่กินปกติถึง 2.5 เท่า
  4. สมองจะได้รับสัญญาณจากกระเพาะอาหารและลำไส้สั่งการให้ร่างกายรู้สึกอิ่มใช้เวลานานกว่า 20 นาที ซึ่งทำให้คนกินเร็วสมองจะสั่งการไม่ทันมักจะกินหมดก่อนที่จะรู้สึกอิ่มทำให้กินไปเรื่อยๆ

การกินช้า

ข้อดี
  1. ไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนที่จะนำมาซึ่งโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมามากมาย
  2. เมื่อเรากินอาหารช้าลง การสั่งการจากสมองจะเกิดขึ้นขณะที่เรากินจึงทำให้เราอิ่มก่อนที่จะกินมากเกินไป 
  3. การกินอาหารจึงควรใช้เวลา อย่างน้อย 20-30 นาทีเพื่อให้สมองสั่งการรู้สึกอิ่ม
  4. การกินช้า ๆ และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยทําให้ระบบย่อยอาหารทํางานได้ดีขึ้น
  5. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปยังกระเพาะอาหาร และลําไส้
  6. ช่วยทําให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้เพิ่มขึ้น
  7. การกินอย่างช้า ๆ และให้ความสนใจกับอาหารที่กินอยู่เป็นการฝึกให้มีสติกับสิ่งที่กำลังทำ
  8. การกินช้าสามารถช่วยลดความเครียดจากการทํางานและชีวิตประจำวัน

ดังนั้นหากเรากินอย่างมีสติ และเน้นการออกกำลังกายเป็นประจำน่าจะเป็นทางออกสำคัญที่ทำให้ร่างกายของเราสมดุลไม่เป็นคนที่อ้วนหรือผอมเกินไปเพื่อสุขภาพดีที่ห่างไกลโรคอ้วนและโรคเรื้อรัง    
 
28 ธันวาคม 2563
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด