โดยที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เริ่มโครงการมาชิมกัญ โดยนำเมนูอาหารที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรทำไว้ เป็นต้นแบบไปเผยแพร่ให้ร้านอาหารที่สนใจ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติ ทำให้เห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจจากกัญชาและกัญชงมีจริง เช่น ก๋วยเตี๋ยว/เกาเหลาหมูตุ๋นอารมณ์ดี เล้งแซ่บซดเพลิน รื่นเริงบันเทิงยำ ข้าวกะเพราสุขใจ น้ำคั้นใบกัญชาสดผสมชา ขนมปังกรอบ คุกกี้ ชอร์ตเบรด เป็นต้น
“ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัด สนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการตลาด และถูกกฎหมาย ทันสมัย ปลอดภัย มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสังคม สามารถขยายผลเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของชุมชมและประเทศ” นายอนุทินกล่าว
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการร่วมกับสำนักงาน กศน. จังหวัด/ กรุงเทพมหานคร และสถานศึกษาขึ้นตรงในจังหวัดที่มีวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชา เน้นการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ ให้วิสาหกิจชุมชนปรุงอาหารที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมได้อย่างปลอดภัย และจะขยายต่อไปยังผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชงในระยะต่อไป สำหรับการดำเนินการ กระทรวงสาธารณสุขโดยสถาบันกัญชาทางการแพทย์ ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นผู้ดูแลด้านกฎหมาย ระเบียบ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่มีความรู้ทางวิชาการด้านการใช้กัญชาตามองค์ความรู้ดั้งเดิม และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่เป็นหน่วยปฏิบัติในการนำนโยบายกัญชาทางการแพทย์ไปปฏิบัติ โดยจะเปิดตัวให้ผู้สนใจได้ลงทะเบียนที่งานมหกรรมกัญชา กัญชง 360° เพื่อประชาชน ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม 2564 ณ สนามช้างอารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ ในพิธีลงนามครั้งนี้ ได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ใบกัญชาในการประกอบอาหารและเครื่องดื่ม สาธิตการทำเครื่องดื่มจากใบกัญชาสด เมนูอาหารผัดกะเพราสุขใจ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และการทำอาหารโดยอาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์