สถานภาพกัญชา กัญชง ในไทย
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา
- “ปัจจุบันกัญชายังมีสถานภาพเป็นยาเสพติดอยู่ แต่ด้วยสรรพคุณทางยามากมาย กฎหมายจึงเปิดช่องให้ปลูกสำหรับเป็นยาและงานวิจัยได้ แต่ต้องมีการเชื่อมโยงกันระหว่างหลายภาคส่วน หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการวิชาชีพ เช่น เวชกรรม เภสัชกรรม แพทย์แผนไทย และเกษตรกร ที่รวมตัวกันจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน เท่านั้น จึงสามารถขอขึ้นทะเบียนปลูกได้ แต่ต้องทำตามกฎระเบียบที่ค่อนข้างมาก เช่น มีสถานที่ปลูกชัดเจน มีรั้วรอบขอบชิด มีกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์”
- เพราะกัญชากับกัญชงนั้น อันที่จริงเป็นเสมือนพืชพี่น้องฝาแฝด มองจากภายนอกไม่สามารถจะแยกออกได้ด้วยสายตา จะแยกได้ว่าตัวไหนเป็นกัญชา หรือกัญชง ต้องให้วิธีดูปริมาณสาร THC (Tetrahy– drocannabinol หรือสารที่มีคุณสมบัติต่อจิตประสาท ทำให้ผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม) ถ้า THC มากกว่า 1% จะถือเป็นกัญชา แต่ถ้าค่า THC ต่ำกว่า 1% จะจัดเป็นกัญชง
- แม้กัญชงจะเปิดกว้างมากกว่ากัญชา แต่คนที่จะมีสิทธิปลูกได้จะต้องยื่นขอใบอนุญาตอยู่ภายใต้เงื่อนไข ...คนที่จะปลูกได้ต้องมีแหล่งปลูกที่ชัดเจน ที่สำคัญต้องมีสัญญาซื้อขายที่ระบุชัดเจน ผู้ซื้อเป็นใคร ซื้อไปเพื่อทำอะไร
- ผู้ที่ต้องการปลูก ยังหาคู่ธุรกิจไม่ได้ อย. จะเป็นผู้ประสานจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ปลูกและผู้รับซื้อ เช่น โรงสกัด โรงงานแปรรูปให้ ยื่นคำขออนุญาตปลูกกัญชงได้ หากอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่ อย. หากอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)
- หากมีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงเพื่อปลูก หรือศึกษาวิจัยให้ยื่นคำขอที่ อย.
- ส่วนจะเลือกปลูกพันธุ์ไหนนั้น สามารถติดต่อเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ได้จาก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สถาบันวิจัยพื้นที่สูง และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ...สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2590-7012