ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

คนไทยพร้อมใจ #SAVEแกงส้ม อภัยภูเบศรเปิดสูตรระดับตำนาน

คนไทยพร้อมใจ #SAVEแกงส้ม อภัยภูเบศรเปิดสูตรระดับตำนาน HealthServ.net
คนไทยพร้อมใจ #SAVEแกงส้ม อภัยภูเบศรเปิดสูตรระดับตำนาน ThumbMobile HealthServ.net

ชาวไทยพร้อมใจ Saveแกงส้ม โดยพร้อมเพรียงหลังต่างชาติจัดอันดับ เป็นเมนูแย่อันดับ 12 ของโลก อภัยภูเบศรไม่ทนเปิดข้อมูล สูตรแกงส้มขนานแท้

คนไทยพร้อมใจ #SAVEแกงส้ม อภัยภูเบศรเปิดสูตรระดับตำนาน HealthServ
เป็นประเด็นร้อนมาทันใดเมื่อ TasteAtlas เว็บไซต์ข้อมูลด้านอาหารเปิดอันดับ อาหารยอดแย่ของโลก โดยมีอันดับ 1 คือ Indigirka Salad จากรัสเซีย และ อันดับ 2 คือ Pizza Cake 0kd จาก แคนาดา และที่ในอันดับที่ 12 มีแกงส้มของไทย รวมอยู่ด้วย 
 
เรียกว่าค้านสายตาขัดความรู้สึกคนไทยทั้งประเทศกันเลยทีเดียว 
 
แฮชแท็ค #Saveแกงส้ม จึงพาเหรดหลั่งไหลมาในทุกสื่อทุกโซเชี่ยลทุกช่องทางโดยพร้อมเพรียงด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองกันแบบสุดขีดขั้น ไม่แพ้รสเข้มๆแสบๆจัดๆของแกงส้มไทย ที่ไม่รู้ว่าคนจัดอันดับไปชิมจากไหนทำให้จัดอันดับมาแบบนี้
 
แต่คาดว่าผู้จัดอันดับคงไม่ได้ชิม แกงส้ม ในประเทศไทย อันเป็นต้นตำรับแกงส้มเป็นแน่ และถ้าเป็นเช่นนั้น นับว่าพลาดอย่างไม่อาจให้อภัย

 
 
คนไทยพร้อมใจ #SAVEแกงส้ม อภัยภูเบศรเปิดสูตรระดับตำนาน HealthServ

สมุนไพรอภัยภูเบศร เปิดตำรับแกงส้ม 



#SAVEแกงส้ม 

เมนูอาหารสุขภาพวิถีไทย รสชาติอร่อยไม่ซ้ำแบบ
 
แกงส้ม เป็นตำรับอาหารไทยที่คนไทยรู้จักกันดี ในคุณสมบัติอาหารเป็นยาป้องกันไข้หัวลม คือไข้ในช่วงปลายฝนต้นหน้าว คำว่าหัวลมหมายถึงต้นฤดูหนาว ช่วงรอยต่อนี้คนจะเป็นไข้ ไอ หวัด หากอธิบายตามแนวทางการแพทย์แผนไทย สรรพสิ่งในจักรวาลประกอบขึ้นด้วยธาตุ เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลงมีความเย็นสูงขึ้นจะกระทบธาตุในร่างกายของเรา ในแกงส้มมีความเปรี้ยวซึ่งความเปรี้ยวเป็นธาตุไฟที่พอดี แกงส้มจึงเป็นอาหารปรับธาตุให้เป็นปกติในช่วงนี้ หากจะอธิบายตามโภชนบำบัดสมัยใหม่ ในแกงส้มมีพริกกับหอมเป็นหลัก ซึ่งหอมเป็นความจำเพาะของแกงส้มเมื่อเปรียบเทียบกับแกงทั้งหลายที่มีพริกเป็นองค์ประกอบเหมือนๆกัน หอมได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่เกิดมาช่วยแก้หวัดและระบบทางเดินหายใจ มีสารเควอซิทินสูง ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารต้านการแพ้ที่ดีมาก มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันเข้มแข็งและทำงานเป็นปกติไม่ทำงานมากเกินจนเกิดเป็นภูมิแพ้และหอบหืด ที่สำคัญก็คือทำให้เม็ดเลือดขาวที่จับกินเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้อย่างรวดเร็วมีความแข็งแรงและเพิ่มจำนวนขึ้น จะเห็นว่าภูมิปัญญากินแกงส้มแก้ไข้หัวลมสามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์และนอกจากนี้หอมยังมีฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์กับระบบหลอดเลือดหัวใจ สมอง จากการที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ได้อีกด้วย  

 
เรื่องพริกไม่ต้องพูดถึงแทรกอยู่ในอาหารไทยแทบทุกมื้อ มีการศึกษาว่าลดอัตราการตายจากมะเร็ง ทำให้คนมีอายุยืนขึ้น ส่วนเครื่องเทศนอกจากจะมีพริกกับหอมเป็นหลักแล้วยังอาจมีการใส่เครื่องเทศอื่น เช่น ข่า กระเทียม กระชาย ผิวมะกรูด อยู่บ้างซึ่งช่วยทั้งการแต่กลิ่นดับคาวและประโยชน์ทางสุขภาพ

 
แกงส้มเป็นเมนูที่มีเปรี้ยวนำ เค็มตาม มีหวานเล็กน้อย  ความเปรี้ยวในแกงส้มที่นิยมคือมะขามซึ่งไม่เปรี้ยวเกินมีความอมหวานซ่อนอยู่แต่หลายพื้นที่ก็สรรหาความเปรี้ยวที่ท้องถิ่นมี เช่น มะดัน มะนาว มะตาด ตะลิงปิง มะนาว มะปริง มะมุด ฯ บางที่ก็ผสมๆกัน สูตรใครสูตรมัน ความเค็มได้จากกะปิเคย เกลือ น้ำปลา ส่วนจำพวกเนื้อสัตว์แกงส้มดั้งเดิมนิยมใช้เนื้อปลาช่อนต้มแล้วโขลกใส่เครื่องแกง ทำให้น้ำแกงส้มข้นขึ้น และอาจมีชิ้นเนื้อปลาใส่มาทีหลังด้วยก็ได้ หรือบางครั้งแกงส้มกับผักบางชนิดนิยมใช้กุ้ง เช่น ชะอมชุบไข่ ดอกกะหล่ำ มะละกอ เป็นต้น
สำหรับชนิดของผักนั้นเป็นเสน่ห์ของแกงส้มที่สามารถใช้ผักตามท้องถิ่น ผักตามฤดูกาล ได้อย่างหลากหลาย ทั้งผักสดผักดอง เช่น ผักกาดขาวหัวไชเท้า หัวแคร์รรอต เห็ด ลูกแตงโมอ่อน เปลือกแตงโม หน่อไม้สด หน่อไม้ดอง ฟักเขียว ถั่วฟักยาวถั่วแขก ถั่วลันเตา ถั่วพลู ผักบุ้งไทย ผักบุ้งจีน ผักกระเฉด สายบัว ลูกฟักข้าว ดอกขจร  ดอกแค ดอกโสน ยอดฟักทอง ยอด/ฝักมะรุม  ฝักข้าวโพดอ่อน  บล็อกโครี ผักหนาม ผักเป็ด  ดองผักกาดเขียวดอง ยอดฟักทองแกงส้มและผักอื่นๆอีกมากมาย แกงส้มจึงเป็นความชาญฉลาดของมนุษย์ที่ค้นคิดวิธีกินผักนานาชนิด ได้ทั้งโอสถสารที่ละลายน้ำได้จากผักซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกโพลี่แซคคาไลด์ที่มีคุณสมบัติเพิ่มภูมิคุ้มกันและได้กากใยของผักไปดูแลลำไส้ล้างพิษต่างๆ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการศึกษาวิจัยถึงประสิทธิภาพการส่งเสริมการเจริญของโปรไบโอติกในอาหารไทย พบว่า แกงส้ม ที่ผ่านการย่อยด้วยเอมไซม์ในระบบทางเดินอาหาร จะส่งเสริมการเจริญของเชื้อโปรไบโอติก ที่มีส่วนช่วยดูแลระบบทางเดินอาหารและลำไส้ โดยเฉพาะแกงส้มที่ใส่มะละกอ 

 
จะเห็นได้ว่าแกงส้มเป็นเมนูที่มีความหลากหลาย ขึ้นกับท้องถิ่น ขึ้นกับฤดูกาล ถึงในระดับครอบครัวเลยทีเดียว เป็นความมั่งคงทางอาหารของประเทศไทยที่มีภูมินิเวศน์แตกต่างหลากหลาย เป็นอาหารพื้นบ้านที่ทำง่ายกว่าแกงอย่างอื่นมีราคาถูกใช้ผักได้ทุกชนิด มีความยืดหยุ่นสูงมากจะเผ็ดน้อยเผ็ดมากก็ปรับกันได้ มีเทคนิคการปรุงอยู่เล็กน้อยคือต้องต้มด้วยน้ำไม่มากให้สารในเครื่องแกงที่มีเนื้อปลาตำลงใส่มาแล้วที่ปรุงรสออกมาก่อนแล้วจึงปรุงรส เติมผักตามใจ ถ้าได้โขลกเครื่องแกงเองยิ่งหอมชวนกิน 

 
 
คนไทยพร้อมใจ #SAVEแกงส้ม อภัยภูเบศรเปิดสูตรระดับตำนาน HealthServ

สูตรแกงส้ม


สูตรแกงส้ม ตำรับ คุณแม่สมศรี วารีผล 

เครื่องแกง ประกอบด้วย 
หัวหอม, พริกแห้ง (พริกจินดา หรือพริกขี้หนู หรือหัวเรือ หรือยอดสนก็ได้) แช่น้ำ ,พริกโอ้ง หรือพริกบางช้างก็ได้ (เพื่อให้สี) แช่น้ำ, กระชาย, กะปิ, เกลือ (นำมาตำรวมกันโดยตำพริกกับเกลือให้แหลกแล้ว ใส่กระชายกับหัวหอมลงตำจนแหลกแล้วจึงนำกะปิลงตำให้เข้ากัน)

ส่วนประกอบอื่น ได้แก่ น้ำมะขามเปียก, น้ำปลา, น้ำตาล, เนื้อสัตว์ เช่น ปลาย่าง (สามารถตำรวมกับพริกแกงจะทำให้น้ำแกงส้มข้น) ปลาสด (เอาเกล็ด ครีบและไส้ออกแล้ว ถ้าเป็นปลาใหญ่ให้หั่นย่อยส่วน กุ้งปลอกเปลือกเอาขี้ออก) ผักต่าง ๆ เช่น ดอกแค มะละกอ (มะละกอสุกกับไม่สุกความหวานต่างกัน ให้ระวังในการเติมน้ำตาล) ผักกาด กวางตุ้ง ไชเท้า ถั่วฝักยาว ฯลฯ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น 
 

วิธีทำ 
 
  1. นำพริกแกงละลายน้ำ (อย่าเพิ่งใส่น้ำเยอะ เพราะระหว่างทำจะมีน้ำจากผักออกมาอีก)
  2. ตั้งไฟจนน้ำเดือด ถ้าแกงปลาสดใส่ปลา ถ้าเป็นกุ้งสดให้ใส่หลังจากผักสุกแล้ว
  3. เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล ให้รสกลมกล่อมมี 3 รส โดยปรุงให้รสเข้มสักหน่อยเพื่อเผื่อใส่ผักเพิ่มแล้วรสจะจืดลง)
  4. เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ผัก โดยใส่ผักที่สุกยากก่อน เมื่อผักสุกแล้วชิมรสอีกครั้ง ปรุงรสตามชอบ (ถ้าใช้พริกแห้งสีจะแดงใช้พริกสดได้แต่แกงสีจะเขียว ๆ) 

ส่วนแกงส้มของภาคใต้ภาคกลางจะเรียกแกงเหลืองมีรสชาติจัดจ้าน มีเนื้อสัตว์หลายหว่าทางภาคกลาง เครื่องแกงจะมีพริก ขมิ้น กระเทียม เป็นหลักมีความเป็นท้องถิ่นที่ต่างไปจากภาคกลาง 


*ภาพจากสมุนไพรอภัยภูเบศร

กรมอนามัย ร่วม SAVE แกงส้ม

  กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วม SAVE แกงส้ม เมื่อแกงส้มของไทย ถูกจัดอับดับให้เป็นอาหารยอดแย่ที่สุดในโลก เผยแกงส้ม เป็นเมนูชูสุขภาพที่อยู่คู่ครัวไทย เพียบพร้อมทั้งคุณค่าทางโภชนาการ และคุณประโยชน์
 
       ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากประเด็นในโลกโซเชียลเมื่อเมนูแกงส้มของไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาหารยอดแย่ที่สุดในโลกโดยเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 12 จากการโหวตให้เมนูแกงส้มมีคะแนน 2.3 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ส่งผลให้เกิดดราม่าเกิดแฮชแท็ก #SAVEแกงส้มในประเทศไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงขอร่วม #SAVEแกงส้ม และอยากขอเชิญชวนให้ผู้บริโภคทั่วโลกเปิดใจรักแกงส้ม รวมทั้งเปิดประโยชน์และคุณค่าโภชนาการของแกงส้มในฐานะแกงไทยที่ถือเป็นอาหารหลักอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
 
           ดร.นายแพทย์สราวุฒิ กล่าวต่อว่า แกงส้มจัดเป็นแกงไทยชนิดไม่ใส่กะทิ มีรสชาติความเป็นไทย ทั้งรสเผ็ด เค็ม เปรี้ยว และหวานปะแล่มครบรส ความโดดเด่น คือ รสเปรี้ยวนำจากมะขามเปียกซึ่งเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี ตามด้วยสรรพคุณจากพริกแกงไทยซึ่งเป็นการใช้สมุนไพร อาทิ พริก กระเทียม หอมแดง กระชาย กะปิ มาโขลกรวมกัน จึงทำให้มีสรรพคุณหลากหลายมากมาย กระชายมีฤทธิ์ขับลมและยังช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ หอมแดงช่วยบรรเทาอาการหวัดคัดจมูก พริกชูรสชาติและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน กระเทียมช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด มะขามเปียกมีวิตามินซีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย จนแกงส้มได้ชื่อว่าเป็น ‘แกงเพื่อสุขภาพ’ ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนผสมของพริกแกงเท่านั้น แกงส้มยังใส่ผักและสมุนไพรหลายชนิดลงไป เช่น ผักกาดขาว ดอกแค แตงโมอ่อน มะละกอดิบ ผักบุ้ง ผักกระเฉด เป็นต้น นอกจากนี้แกงส้มยังมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลาหรือกุ้ง ที่นิยมนำมาโขลกรวมกับพริกแกงหรือใส่แยกต่างหาก ซึ่งแกงส้มของแต่ละภาคจะมีขั้นตอนการปรุงอาหารแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในท้องถิ่นผักหลากหลายชนิด ทำให้แกงส้มมีไขมันต่ำ อุดมด้วยใยอาหารช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย ผักมีวิตามินเอที่ช่วยการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ต่อต้านอนุมูลอิสระป้องกันเลือดออกตามไรฟัน วิตามินบี 12 จากเนื้อสัตว์จะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และการทำงานของระบบประสาทและสมอง
 
            “สำหรับคุณค่าโภชนาการของแกงส้ม สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีน้ำหนักตัวปกติ  สามารถกินข้าวสวยแกงส้มผักรวมร่วมกับอาหารอย่างอื่นได้อีก เพราะแกงส้มจัดเป็นอาหารให้พลังงานต่ำ และอาหารที่นิยมกินกับแกงส้มมักจะเป็นไข่เจียว แต่เนื่องจากแกงส้มถ้าใส่กุ้งสดจะให้โคเลสเตอรอลสูง เมื่อทานรวมกับไข่เจียวอีก 1 ฟอง อาจจะให้โคเลสเตอรอลเกินปริมาณโคเลสเตอรอลที่แนะนำในแต่ละวันได้ ซึ่งปริมาณที่แนะนำ คือ ไม่ควรเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน จึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโคเลสเตอรอลในเลือดสูง ดังนั้น ถ้ากินแกงส้มผักรวมกุ้งสด ควรเลือกกินกับอาหารอื่นที่ให้โคเลสเตอรอลต่ำ หรือถ้าต้องการกินแกงส้มกับไข่เจียว แนะนำให้เปลี่ยนจากเนื้อกุ้งเป็นเนื้อปลาแทน อีกข้อควรระวัง คือ ปริมาณโซเดียม ซึ่งอยู่ในเครื่องแกงและเครื่องปรุงรสของแกงส้มจะค่อนข้างสูง สำหรับกลุ่มที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่ต้องจำกัดปริมาณโซเดียมในอาหาร ต้องระวังหากกินมาเกินไป จะทำให้ได้รับโซเดียมเกินได้ ที่สำคัญ ต้องกินเมื่อปรุงสุกใหม่ เพื่อความอร่อยถูกใจ อนามัยไม่ถูกลืม” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว 

แกงส้ม อาหารเป็นยา เมนูติดบ้านของคนทุกพื้นที่

 
แกงส้ม เป็นอาหารไทยที่มีติดบ้าน แต่ละพื้นที่อาจมีการปรับเปลี่ยนส่วนประกอบ และ เครื่อง ที่หลากหลาย ตามภูมิภาค ฤดูกาล แต่โดยพื้นฐานแล้ว ถือเป็นเมนูสุขภาพที่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทางเดินอาการและลำไส้
คนสมัยก่อน กินแกงส้ม แก้ไข้หัวลม ใส่ดอกแคและผักอื่นๆ ปรุงรสออกเปรี้ยวน้ำ เค็ม หวาน กำลังดี ช่วยปรับธาตุให้สมดุล นอกจากนี้ ในเครื่องพริกแกงส้ม ยังอุดมไปด้วยสารที่สำคัญ เช่น 
- หอมแดง มีสารเควอซิทิ ที่โดดเด่นเรื่องการปรับภูมิคุ้มกัน ต้านการแพ้ ต้านหวัด
- พริก เป็นยาอายุวัฒนะ ให้ความเผ็ดร้อน มีงานวิจัยพบว่า การกินพริกช่วยยืดอายุ ลดอัตราการตายจากมะเร็งได้  จนมีคำเรียกว่า "กินพริก อายุยืน"
- กระชาย รสเผ็ดร้อน ช่วยเพิ่มไหลเวียนเลือด บำรุงร่างกาย และยังมีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัส
- ข่า ขับลม แก้ปวด ต้านอักเสบ ฤทธิ์ต้านหวัด ต้านไวรัส 
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ได้ทำขึ้นเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการส่งเสริมการเจริญของโปรไบโอติก (จุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ดูแลระบบสุขภาพ ปรับสมดุลลำไส้ ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน) โดยทำการศึกษาในอาหารหมัก และ อาหารไทยบางชนิด พบว่า แกงส้ม เป็นเมนูที่ส่งเสริมการเจริญของเชื้อ โปรไบโอติก ได้ดีที่สุด เมื่อผ่านการย่อยด้วยเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะแกงส้มที่ใส่มะละกอ (รองลงมาคือ แกงเลียง แกงไตปลา แกงป่า และ แกงอ่อม) ส่วนแกงขนุนที่นำมาทดสอบด้วยนั้นกลับมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อโปรไบติกส์บางชนิด
แหล่งโปรตีนสำคัญ ไขมันต่ำ ประโยชน์สูงในแกงส้มคือ เนื้อปลา นิยมใส่เนื้อปลาลงไปในแกงส้ม ซึ่ง ปลามีโปรตีน เป็นสารอาหารที่ช่วยซ่อมแซมส่วนซึกหรอ และยังมีผลต่อการทำงานของระบบภูมคุ้มกัน
แกงส้ม มีหลายสูตรตำรับ ผักพื้นบ้านที่ใส่เน้นหลากหลายตามฤดูกาล ทำให้เป็นเมนูอาหารที่อุดมไปด้วยแหล่งวิตามิน สารโพลีแซกคาไรด์ และ กากใย ที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย ช่วยลดการสะสมของเสียในลำไส้ได้อีกด้วย
เป็นอีกเมนุสุขภาพ ที่สามารถกินได้เรื่อยๆ นะคะ 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด