ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

อย.ห่วงใยรับวาเลนไทน์ แนะวิธีเลือกซื้อ วิธีใช้ถุงยางอนามัย ยาคุมฉุกเฉิน

อย.ห่วงใยรับวาเลนไทน์ แนะวิธีเลือกซื้อ วิธีใช้ถุงยางอนามัย ยาคุมฉุกเฉิน HealthServ.net
อย.ห่วงใยรับวาเลนไทน์ แนะวิธีเลือกซื้อ วิธีใช้ถุงยางอนามัย ยาคุมฉุกเฉิน ThumbMobile HealthServ.net

วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักความสัมพันธ์ อย. แนะคู่รักป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยการเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่ได้มาตรฐาน ต้องมีเลข อย. ย้ำ! ตรวจสอบวันที่ผลิต วันหมดอายุก่อนซื้อ เพื่อให้ได้อุปกรณ์ป้องกันที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ส่วน ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินใช้สำหรับกรณีจำเป็นที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ไม่ใช่ยาสำหรับทำแท้งและไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ทั้งนี้ อาจพบอาการข้างเคียงจากการใช้ยาได้ โดยส่วนใหญ่มีความรุนแรงน้อย แต่ควรปรึกษาแพทย์ หากพบอาการผิดปกติ

     นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า 14 กุมภาพันธ์ เทศกาลวันแห่งความรัก เป็นช่วงเวลาที่ใครหลาย ๆ คน ให้ความสำคัญกับการแสดงความรักในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งคู่รักหลายคู่มีการแสดงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์


     สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงตระหนักถึงความสำคัญของการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน หรือปัญหาการใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกต้องและไม่ได้มาตรฐาน เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ซึ่งสิ่งที่สามารถป้องกันได้ง่ายและเป็นพื้นฐาน คือ การใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง
 
อย.ห่วงใยรับวาเลนไทน์ แนะวิธีเลือกซื้อ วิธีใช้ถุงยางอนามัย ยาคุมฉุกเฉิน HealthServ

 

 

ถุงยางอนามัย

 
     ถุงยางอนามัย จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับแจ้งรายการละเอียดในการผลิตหรือนำเข้า ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2556 กำหนดให้มีมาตรฐานและข้อกำหนดตาม มอก. 625-2559 หรือ ISO 4074 : 2015 ซึ่งถุงยางอนามัยถือเป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุด ในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น มีความบาง มีหลายสี หลายกลิ่น และหลายพื้นผิว เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของผู้ใช้ ซึ่งถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม และสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่น โรคซิฟิลิส โรคหนองใน โรคหนองในเทียม โรคแผลริมอ่อน โรคกามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง และโรคเริม เป็นต้น
 
     ประชาชนควรเลือกซื้อถุงยางอนามัยที่มีเลขใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์หรือใบรับแจ้งรายการละเอียด ซึ่งรับรองจาก อย. ควรสังเกตดูวันที่ผลิต วันหมดอายุก่อนซื้อใช้ให้เหมาะสมกับขนาดของอวัยวะเพศ และสวมเพียงชั้นเดียวเท่านั้น เพราะการใส่ถุงยางอนามัยหลายชั้นจะทำให้เกิดการเสียดสีกันและฉีกขาดได้ นอกจากนี้ ไม่ควรใช้น้ำมันทาผิว โลชั่นหรือปิโตรเลียมเจลลี แทนสารหล่อลื่น เพราะถุงยางอนามัยจะเสื่อมประสิทธิภาพและฉีกขาดได้ง่าย รวมทั้งควรเก็บรักษาให้ถูกวิธี เพื่อคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่สูงสุด ควรเก็บถุงยางอนามัยในที่แห้ง เย็น ไม่ถูกแสงแดดหรือแสงฟลูออเรสเซนต์ ไม่ควรเก็บถุงยางอนามัยไว้ในช่องเก็บของรถยนต์ซึ่งมีอุณหภูมิสูงในตอนกลางวัน กระเป๋าใส่ธนบัตรหรือกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เพราะการกดทับจะทำให้ถุงยางอนามัยมีรอยรั่วหรือฉีกขาดได้
 

ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน

 
     นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า คู่รักหลายคู่ที่อาจมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน และจำเป็นต้องใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงแนะผู้ใช้ยาทำความเข้าใจ ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกของการคุมกำเนิดที่หลากลาย โดยมีข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การทำหมัน การใส่ห่วงอนามัย และการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด โดยมียาเม็ดคุมกำเนิดที่ต้องรับประทานต่อเนื่องเป็นประจำแบบรายเดือนและยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นยาที่มีข้อบ่งใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือเกิดความผิดพลาดจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นเท่านั้น
 
     ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นชนิดฮอร์โมนเดี่ยวมีส่วนประกอบของโปรเจสโตเจนปริมาณสูง มี 2 ขนาด คือ 0.75 มิลลิกรัม/เม็ด และ 1.5 มิลลิกรัม/เม็ด ซึ่งสามารถใช้ได้ 2 แบบ คือ แบบที่หนึ่ง กินยาขนาด 0.75 มิลลิกรัม ให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน อย่างช้าไม่เกิน 72 ชั่วโมง และกินเม็ดที่ 2 ภายใน 12 ชั่วโมงต่อมา และแบบที่สอง กินยาขนาด 1.5 มิลลิกรัม ให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรืออย่างช้าไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยการใช้ทั้งสองแบบให้ผลไม่ต่างกัน ทั้งนี้ การใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจพบอาการข้างเคียงได้ ซึ่งส่วนใหญ่มีความรุนแรงน้อย เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ปวดท้องน้อย และความผิดปกติของประจำเดือน เช่น ประจำเดือนมายาวนานขึ้น แต่หากพบอาการผิดปกติ หรือสงสัยภาวะตั้งครรภ์ ควรรีบไปพบแพทย์
 
     รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวย้ำว่า การใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นทางเลือกหนึ่งในการคุมกำเนิดที่ใช้สำหรับกรณีจำเป็น โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์น้อยกว่าการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบรายเดือน อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาทำแท้ง และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ 

คำแนะนำเพิ่มเติม

 

ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับถุงยางอนามัย

ยังเชื่อกัน... แบบนี้อีกหรอ
ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับถุงยางอนามัย 
  •  ใส่แล้วไม่เร้าใจ ปัจจุบันถุงยางใีความบางเฉียบ และยังมีลูกเล่นด้วยการเพิ่มกลิ่น และผิวสัมผัส
  •  ไซส์ใหญ่กว่าขนาดยิ่งดี เสี่ยงต่อการหลุดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
  •  ใส่หลายชั้น ยิ่งปลอดภัย การใส่ถุงยางหลายชั้น อาจทำให้ถุงยางเสียดสีกัน มีโอกาสทำให้ฉีกขาด
  • ใส่ด้านไหนก็เหมือนกัน ต้องใส่ด้านที่มีสารหล่อลื่นไว้ด้านนอก เพื่อลดการเสียดสีให้กับคู่นอนของคุณ 

วิธีการคุมกำเนิดแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

วิธีการคุมกำเนิดแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
✔️ถุงยางอนามัย ใช้ได้ทุกโอกาส  เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ
✔️ยาเม็ดคุมกำเนิด / แผ่นแปะคุมกำเนิด / วงแหวนคุมกำเนิด เหมาะกับการคุมกำเนิดชั่วคราว 
✔️ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น คือหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วพบว่าลืมคุมกำเนิด หรือถุงยางแตก
✔️ทำหมันหญิง - ชาย เหมาะสำหรับผู้มีบุตรเพียงพอแล้ว 
✔️ยาฉีดคุมกำเนิด / ห่วงอนามัย เหมาะสำหรับต้องการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพในระยะที่ยาวนานขึ้น ลืมกินยา หรือคู่สมรสที่มีบัตรเพียงพอแต่ไม่ตัดสินใจทำหมัน

วาเลนไทน์นี้ Sex Safe ปลอดภัย เลือกวิธีคุมกำเนิดให้เหมาะกับคุณ เพื่อสุขภาพที่ดี ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด