ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สถาบันทันตกรรม เตือน ฟันผุไม่ควรปล่อยไว้ เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือดได้

สถาบันทันตกรรม เตือน ฟันผุไม่ควรปล่อยไว้ เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือดได้ HealthServ.net
สถาบันทันตกรรม เตือน ฟันผุไม่ควรปล่อยไว้ เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ThumbMobile HealthServ.net

สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์แนะ สุขภาพช่องปากดี ส่งผลต่อดีสุขภาพร่างกาย เมื่อพบฟันผุหรือเป็นโรคปริทันต์อักเสบควรรีบรักษา หากปล่อยทิ้งไว้เสี่ยงติดเชื้อ ส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญ และติดเชื้อในกระแสเลือด

 
 
     นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญ ต้องใส่ใจดูแล เพราะเป็นประตูนำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี ขณะเดียวกันปัญหาในช่องปากอาจเป็นต้นเหตุทำให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งระบบได้ เช่น โรคฟันผุ ซึ่งเกิดจากการมีเศษอาหารไปค้างอยู่ตามซอกฟัน หรือมีน้ำตาลจากอาหารที่เรารับประทานสัมผัสกับฟันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เชื้อแบคทีเรียสร้างกรดที่มีฤทธิ์ทำลายผิวฟัน ทำให้ฟันถูกกัดกร่อนทำลายเป็นรู เมื่อการผุลุกลามมากขึ้น จะทำให้มีอาการเสียวฟันหรือปวดฟันตามมาได้ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาการบดเคี้ยว ระบบย่อยอาหาร และปัญหาทางร่างกายอื่นๆตามมา

     ดังนั้นควรใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปาก หมั่นสังเกตฟันและสภาพช่องปากของตนเอง ทำความสะอาดฟันให้ถูกวิธี แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ ในตอนเช้าและก่อนนอน ใช้ไหมขัดฟันเพื่อช่วยทำความสะอาดซอกฟัน ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรกินจุกจิก และพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง






 
      ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคในช่องปาก เช่นโรคฟันผุ หากละเลยหรือปล่อยให้ผุลุกลามจนถึงโพรงประสาทฟัน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่กระจายไปสู่เนื้อเยื่ออื่นๆของร่างกาย และอาจลุกลามไปยังบริเวณที่สำคัญ เช่น แก้ม ใต้คาง ใต้ตา อาการปวดและบวมจะรุนแรงขึ้น นอกจากนี้เหงือกอักเสบถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษา โรคจะลุกลามจนเป็นโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งจะพบมีเหงือกแดงบวม และมีเลือดออก เมื่อโรคลุกลามรุนแรงขึ้นจะทำให้ฟันโยก อาจเกิดหนองหรือเป็นฝีปริทันต์ ซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อโรคแพร่กระจายลุกลามไปยังอวัยวะสำคัญของร่างกายทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเชื้อจะเดินทางผ่านกระแสเลือด ท่อน้ำเหลือง ระบบทางเดินหายใจ และอาจรุนแรงถึงขั้น ติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้


      ทั้งนี้ในผู้ที่มีโรคประจำตัวและทานยาเป็นประจำ เมื่อต้องรับบริการทางทันตกรรม ต้องแจ้งให้ทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาทราบ เพื่อทันตแพทย์จะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการวางแผนการรักษา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ป่วย
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด